
เปิดอาหาร 4 ประเภท ตัวเร่งทำลายไต คนไทยกินประจำ
1. กินอาหารที่มีพิวรีนสูงเกินไป
คนส่วนใหญ่รู้ว่า พิวรีนสูง ทำให้เกิดโรคเกาต์ แต่ไม่ค่อยรู้ว่ามันยังทำลายไตได้รุนแรงกว่า เมื่อร่างกายย่อยพิวรีน จะเกิดกรดยูริก หากไตไม่สามารถขับออกได้ทัน ผลึกยูเรต จะไปสะสมในท่อไต ทำให้เกิดการอักเสบและอุดตัน ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะไตวายเฉียบพลันหรือเรื้อรังได้ ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า ผู้ที่มีกรดยูริกสูงเรื้อรัง มีโอกาสเป็นโรคไตเรื้อรังมากกว่าคนทั่วไปถึง 3 เท่า และมักไม่มีอาการจนกว่าจะเข้าสู่ระยะที่ไตเริ่มเสื่อมถาวร
2. ดื่มกาแฟหรือชาเข้มเกินไป
กาแฟและชาเข้มช่วยให้ตื่นตัว แต่หากดื่มมากเกินไปจะทำให้ไตทำงานหนักเกินจำเป็น คาเฟอีนกระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น เลือดไหลเวียนไปที่ไตมากขึ้น ทำให้ อัตราการกรองของไตเพิ่มสูงผิดปกติ จนเซลล์กรองเสื่อมลงในระยะยาว
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ดื่มกาแฟเกิน 3 แก้วต่อวัน (ประมาณ 300 มิลลิกรัมคาเฟอีน) จะเพิ่มภาระของไตขึ้นถึง 30% และถ้ามีโรคพื้นฐานอย่างเบาหวานหรือความดันสูง ความเสียหายจะเกิดเร็วขึ้นอีกหลายเท่า ส่วนชาเข้มก็ไม่ต่างกัน เพราะมีสารธีโอฟิลลีนที่รบกวนสมดุลของแคลเซียมและโซเดียม ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดนิ่วหรือการอักเสบในท่อไต
3. กินอาหารแปรรูปบ่อยเกินไป
แม้จะลดเค็มและมันแค่ไหน แต่ถ้ายังกินอาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือเครื่องดื่มน้ำอัดลม ก็ยังเสี่ยงทำลายไตอยู่ดี เพราะอาหารเหล่านี้มี ฟอสเฟต ในปริมาณสูง ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ไตเสื่อมเร็ว ผู้ที่กินอาหารแปรรูปบ่อย มีความเสี่ยงต่อโรคไตสูงกว่าคนทั่วไปถึง 4 เท่า ที่น่ากลัวคือ ฟอสเฟตไม่มีรสเค็มหรือหวาน ทำให้ยากจะรู้ตัวว่ากำลังรับสารนี้เกินขนาดทุกวัน
4. ดื่มนมหรือเครื่องดื่มโปรตีนเสริมมากเกินไป
หลายคนเชื่อว่าการกินโปรตีนเยอะจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและมีกล้ามเนื้อ แต่ในความจริง เมื่อร่างกายย่อยโปรตีน จะเกิดของเสียจากไนโตรเจนซึ่งต้องผ่านไตกรอง หากได้รับมากเกินไป ไตจะต้องทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆ จนสูญเสียความสามารถในการกรองของเสียตามธรรมชาติ งานวิจัยชี้ว่า ผู้ที่บริโภคโปรตีนสูงมีอัตราการเสื่อมของไตรวดเร็วกว่า 2 เท่า โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างความดันหรือเบาหวาน