พิจิตรอ่วม พนังกั้นน้ำแตก ยังซ่อมไม่ได้ น้ำเชี่ยวบิ๊กแบ๊กเอาไม่อยู่ ท่วมร้อยกว่าครัวเรือน

พิจิตรอ่วม พนังกั้นน้ำแตก ยังซ่อมไม่ได้ น้ำเชี่ยวบิ๊กแบ๊กเอาไม่อยู่ ท่วมร้อยกว่าครัวเรือน

วันที่ 9 ตุลาคม 2568 รายงานสถานการณ์วิกฤตจากกรณีถนนพนังกั้นน้ำที่สร้างเป็นคันดินปูคอนกรีต เชื่อมระหว่างบ้านคลองข่อย หมู่ที่ 6 กับบ้านไผ่หลวง หมู่ที่ 8 ตำบลไผ่หลวง อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ถูกกระแสน้ำจากแม่น้ำน่านกัดเซาะจนขาดเป็นแนวยาวเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ และขยายความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกกว่า 30 เมตรในคืนที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่จากป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พร้อมหลายหน่วยงาน เร่งดำเนินการซ่อมแซมอย่างเต็มกำลัง โดยนำรถแบ็กโฮจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร 3 คัน เข้ายกท่อซีเมนต์ขนาดใหญ่ (กว้าง 2 เมตร หนักเกือบ 300 กิโลกรัม) ลงวางเพื่อชะลอความแรงของน้ำ และนำถุงบิ๊กแบ๊กไปวางทับ แต่ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวกรากพัดถุงออกไป

นางสาวสุกัญญา ต้นทุน ป้องกันภัยจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า แผนเดิมที่จะใช้ท่อซีเมนต์และบิ๊กแบ๊กอุดจุดน้ำไหล ไม่สามารถรับมือกับความแรงของกระแสน้ำได้ ขณะนี้เตรียมเปลี่ยนแผนโดยนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางทางน้ำแทน แต่สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง หากปิดช่องทางน้ำไม่ทัน ชาวบ้านจะได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น

ล่าสุด มวลน้ำจากแม่น้ำน่านได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่หลายหมู่บ้าน หลายตำบล ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 300 หลังคาเรือน โดยน้ำได้ลุกลามเข้าท่วมถึงบ้านวังน้ำเต้า หมู่ที่ 10 ตำบลบางไผ่ อำเภอบางมูลนาก และเริ่มไหลข้ามถนนสายหลักตะพานหิน–บางมูลนากแล้ว มีประชาชนกว่า 300-400 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ หลายครอบครัวต้องอพยพไปยังที่ปลอดภัย โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียงที่หน่วยกู้ภัยเร่งเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว

ในเขตเทศบาลเมืองตะพานหิน แม่น้ำน่านเอ่อล้นคันกระสอบทราย เข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจใจกลางเมือง ร้านค้า บริษัท และตลาด ได้รับความเสียหายอย่างหนัก แม้เจ้าหน้าที่เทศบาลและ ปภ.จะตั้งเครื่องสูบน้ำช่วยระบาย แต่ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยติดเตียงออกจากบ้านอย่างยากลำบาก

ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหินได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเช่นกัน บริเวณหน้าตึกทำการมีระดับน้ำลดลงจากการสูบระบายน้ำ แต่ยังมีน้ำซึมผ่านท่อระบายน้ำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ภายนอกโรงพยาบาลระดับน้ำยังเพิ่มขึ้น จนต้องปิดการจราจรฝั่งโรงพยาบาล และให้รถสัญจรสวนทางบน 2 ช่องจราจรที่เหลือ

อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลยังคงเปิดให้บริการผู้ป่วยตามปกติ ยกเว้นผู้ป่วยที่ต้องส่งตัวต่อ ซึ่งจะถูกส่งไปยังโรงพยาบาลพิจิตรชั่วคราว โดยมีการปรับเส้นทางบริเวณทางเข้าให้สามารถนำผู้สูงอายุหรือผู้บาดเจ็บเข้าถึงตัวอาคารได้สะดวกขึ้น

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ