กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหวประเทศไทย เปิดเผยข้อมูลการเฝ้าติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหว ประจำวันที่ 19 ธันวาคม 2568 พบการเกิดแผ่นดินไหวใกล้ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณประเทศเพื่อนบ้านทางภาคเหนือ ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหวยังระบุเพิ่มเติมว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ (19 ธ.ค.) ตรวจพบแรงสั่นสะเทือนที่มีจุดศูนย์กลางใกล้พื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย แม้แรงสั่นจะอยู่ในระดับไม่รุนแรง แต่เกิดถี่ต่อเนื่อง จึงขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกัน รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหวทั่วโลก ระหว่างเวลา 00.00 – 09.00 น. ของวันที่ 19 ธันวาคม 2568 พบเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 5.9 แมกนิจูด ในพื้นที่ Philippine Islands Region ซึ่งมีการยกระดับการเตือนภัยเป็นรหัสสีแดง

สำหรับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นใกล้ประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา มีรายละเอียดดังนี้

19 ธ.ค. 2568 เวลา 07.11 น.

แผ่นดินไหวขนาด 3.1 แมกนิจูด ลึก 10 กิโลเมตร ศูนย์กลางอยู่ในประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 107 กิโลเมตร

18 ธ.ค. 2568 เวลา 21.39 น.

แผ่นดินไหวขนาด 2.0 แมกนิจูด ลึก 10 กิโลเมตร ศูนย์กลางประเทศเมียนมา ใกล้ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 39 กิโลเมตร

18 ธ.ค. 2568 เวลา 17.45 น.

แผ่นดินไหวขนาด 4.4 แมกนิจูด ลึก 10 กิโลเมตร บริเวณตอนเหนือของหมู่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ห่างจาก อ.เมือง จ.สตูล ประมาณ 509 กิโลเมตร

18 ธ.ค. 2568 เวลา 17.20 น.

แผ่นดินไหวขนาด 1.9 แมกนิจูด ลึก 10 กิโลเมตร ศูนย์กลางในประเทศเมียนมา ใกล้ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 70 กิโลเมตร

18 ธ.ค. 2568 เวลา 11.10 น.

แผ่นดินไหวขนาด 2.0 แมกนิจูด ลึก 10 กิโลเมตร ศูนย์กลางบริเวณ ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

18 ธ.ค. 2568 เวลา 10.40 น.

แผ่นดินไหวขนาด 4.4 แมกนิจูด ลึก 10 กิโลเมตร บริเวณตอนเหนือของหมู่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ห่างจาก อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 428 กิโลเมตร

18 ธ.ค. 2568 เวลา 10.33 น.

แผ่นดินไหวขนาด 4.0 แมกนิจูด ลึก 10 กิโลเมตร ศูนย์กลางในประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 478 กิโลเมตร

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่พบรายงานความเสียหายหรือผลกระทบต่อประชาชนในประเทศไทย พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และติดตามข้อมูลจากหน่วยงานทางการเป็นหลัก