จากสื่อต่างประเทศ ได้รายงานว่า แจ็กกี้ไว (Jvcki Wai) แร็ปเปอร์สาววัย 29 ปี (ชื่อจริง ฮงชีอา) ออกมาเปิดเผยว่า เธอตกเป็นเหยื่อ ความรุนแรงในความสัมพันธ์ จากอดีตคนรัก ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ค่าย KC Label อย่าง บังดัล (Bangdal) วัย 32 ปี (ชื่อจริง บังจินอู) จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 แจ็กกี้ไวได้โพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรม เผยให้เห็นร่องรอยบาดแผลบนใบหน้าและร่างกาย พร้อมระบุว่า “ฉันออกจากบ้านไม่ได้มาสองสัปดาห์แล้ว”

เธอชี้แจงเพิ่มเติมต่อเสียงวิจารณ์ว่า “หลายคนถามว่าทำไมต้องเอาเรื่องพวกนี้มาโพสต์ ทำเหมือนเป็นเหยื่อ ทั้งที่วันที่ฉันถูกทำร้าย เขามาที่บ้าน เคาะประตู กดรหัส และไม่ให้ฉันออกไปไหนเลย ฉันไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากทำแบบนี้ พอโพสต์ไป เขาก็ไม่ติดต่อมาอีก หากทำให้ใครไม่สบายใจ ต้องขอโทษด้วย” นอกจากนี้ แจ็กกี้ไวยังเผย อีเมลและข้อความเสียง ของฝ่ายชายที่เชื่อว่าเป็นผู้ก่อเหตุด้วย

ต่อมา บังดัลได้ออกมาโพสต์ข้อความตอบโต้ผ่าน SNS ด้วยถ้อยคำรุนแรง ปฏิเสธข้อกล่าวหา และอ้างว่าเขาเป็นฝ่ายถูกทำร้าย พร้อมโจมตีผู้ที่วิจารณ์ตนเองอย่างดุเดือด ทำให้ตัวตนของอดีตคนรักถูกเปิดเผยอย่างชัดเจน

โดย บังดัลเป็นโปรดิวเซอร์ผู้ดูแลโปรดิวเซอการผลิตทั้งอัลบั้ม ‘MOLLAK’ ของแจ็กกี้ไว ที่ปล่อยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และทั้งคู่ยังเคยร่วมงานกันในซิงเกิล ‘Spoil U’ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ อีกทั้งเขายังเป็นโปรดิวเซอร์สังกัด KC Label ที่ก่อตั้งโดยแร็ปเปอร์ Sik-K และเคยได้รับรางวัล โปรดิวเซอร์แห่งปี จาก Korean Hip Hop Awards 2025

ท่ามกลางกระแสโต้เถียง แจ็กกี้ไวออกมาโพสต์แถลงการณ์เพิ่มเติมเมื่อวันที่ 14 โดยยอมรับว่า “ฉันยอมรับว่าฉันเคยตบหน้าเขา เพราะโดนทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ 99% ของความรุนแรง ฉันเป็นฝ่ายถูกกระทำ”

เธอกล่าวหาว่าอดีตคนรัก กักขังเธอในห้อง ขว้างปาสิ่งของ ทำลายคอมพิวเตอร์ ยึดโทรศัพท์ ไม่ให้แจ้งตำรวจ และถึงขั้นพยายามหยิบมีดในครัว รวมถึงบีบคอจนหายใจไม่ออก พร้อมเล่าว่าความรุนแรงเริ่มจากการขว้างของชิ้นเล็ก ๆ ก่อนจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

แจ็กกี้ไวยังเผยว่า เคยแจ้งตำรวจและติดต่อผู้บริหารค่ายเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่สุดท้ายเธอเลือกเงียบ เพราะไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน และเพราะอดีตคนรักขอโทษ ทำให้เธอใจอ่อนรับกลับมา ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอรู้สึกเสียใจอย่างมากในวันนี้

ท้ายที่สุด แจ็กกี้ไวกล่าวด้วยน้ำเสียงสิ้นหวังว่า “ตอนนี้ฉันไม่ทำเพลงก็ได้ ภาพลักษณ์จะพังก็ไม่เป็นไร ฉันแค่อยากมีชีวิตอยู่ และอยากเลิกให้ได้ ต่อให้โดนล้อ โดนด่าว่าโกหก ก็ไม่เป็นไร”