แพทย์เตือน 4 อาการเงียบของมะเร็ง มักพบในระยะสุดท้ายทั้งที่ยังดูแข็งเเรง
มะเร็งปอดมักถูกตรวจพบช้าด้วย 2 สาเหตุหลัก คือปอดมีฟังก์ชันการทำงานชดเชยที่ยอดเยี่ยม ทำให้เราไม่รู้สึกเหนื่อยหอบแม้เริ่มมีก้อนเนื้อ และอาการเริ่มต้นที่ดูคล้ายโรคทั่วไปจนน่าสับสน หากมีอาการดังนี้ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
1. ไอมากผิดปกติ ไอเรื้อรังไม่หายสักที
อาการไอเป็นเรื่องปกติของโรคทางเดินหายใจ แต่การไอจากมะเร็งปอดจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือมักเป็นการ ไอแห้งๆ แบบกะทันหัน รู้สึกระคายเคืองเหมือนมีอะไรข่วนอยู่ในหลอดลมตลอดเวลา อาจไม่มีเสมหะ หรือมีเพียงเสมหะขาวเป็นฟองเล็กน้อยเท่านั้น จุดสังเกตสำคัญคือ ยาแก้ไอหรือยาแก้อักเสบเอาไม่อยู่ กินแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่มานาน หากลักษณะการไอเปลี่ยนไป เสียงเริ่มแหบพร่า หรือไอนานเกิน 2-3 สัปดาห์
2. อาการเจ็บปวด 3 จุด ที่ไม่ใช่การปวดเมื่อยธรรมดา
- ปวดหน้าอก อาการปวดหน้าอกแบบตื้อๆ หรือปวดลึกๆ อาการมักจะแย่ลงเมื่อหายใจเข้าลึกๆ หรือไอ สาเหตุไม่ได้มาจากโรคหัวใจเสมอไป แต่อาจเกิดจากก้อนเนื้อลุกลามไปที่เยื่อหุ้มปอดหรือผนังหน้าอก สัญญาณอันตรายคือ หากปวดต่อเนื่องและ ปวดมากขึ้นในตอนกลางคืน แม้ในขณะที่ร่างกายนอนพักผ่อนเฉยๆ
- ปวดไหล่ ก้อนเนื้อบริเวณยอดปอด (Pancoast tumor) ที่โตขึ้นจนไปกดทับกลุ่มเส้นประสาทบริเวณแขนและกระดูกสันหลังส่วนคอ ทำให้เกิดอาการปวดร้าวลงไหล่และแขนอย่างรุนแรง
- ปวดหลัง อาการปวดหลังในผู้ป่วยมะเร็งปอดไม่ใช่การปวดกล้ามเนื้อจากการยกของหนัก แต่เกิดจากก้อนเนื้อลุกลามไปที่เยื่อหุ้มปอดด้านหลัง หรือแย่กว่านั้นคือกระจายไปที่กระดูกสันหลัง ลักษณะคือจะปวดรุนแรง ปวดลึก และที่สำคัญคือ การนอนพักไม่ได้ช่วยให้หายปวด ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนภัยระยะลุกลามที่ต้องรีบเช็กด่วน






