รู้แล้วเข้าใจเลย! เจ้าของบ้าน เผยเทคนิค เอาตัวรอดน้ำท่วมสงขลา ใน 1 ชม.
โลกออนไลน์กำลังให้ความสนใจภาพบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หาดใหญ่ ที่รอดพ้นจากน้ำท่วมเพียงหลังเดียวในโครงการ พร้อมมีไฟฟ้าใช้ตามปกติ ท่ามกลางพื้นที่รอบข้างที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ต่อมาผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Wicharit Leelakorn ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน โพสต์ยืนยันว่าเป็นบ้านของตนเอง พร้อมเปิดเผยถึงวิธีการรับมือที่ทำให้บ้านรอดจากน้ำท่วม จนมีประชาชนจำนวนมากเข้ามาขอคำแนะนำอย่างละเอียด
นายวิชาฤทธิ์ ลีลากร เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า บ้านตั้งอยู่ในตำบลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา อยู่ใกล้เขตอำเภอหาดใหญ่ ซึ่งมักประสบปัญหาน้ำป่ามากกว่าน้ำท่วมขังยาวนาน ก่อนเกิดเหตุครั้งนี้ได้รับการแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่าจะมีฝนตกหนัก และเมื่อฝนเริ่มตกก็พบว่าน้ำขึ้นเร็วกว่าทุกครั้ง จากเดิมที่มักท่วมเพียงประมาณ 2 ชั่วโมง แต่รอบนี้ถือว่าหนักที่สุด
คืนแรกที่น้ำเอ่อล้นเข้าบ้าน เขายอมรับว่าแทบไม่มีเวลาเตรียมการใด ๆ เพราะเป็นช่วงกลางคืน หลังจากฝนเริ่มเบาลงและรถสามารถสัญจรได้ จึงรีบออกไปซื้อเครื่องปั่นไฟ ผ้าใบ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยการประเมินว่าสถานการณ์ยังไม่นิ่ง เมื่อกลับเข้าบ้านพบว่าน้ำเริ่มสูงขึ้นอีกครั้ง จึงลงมือวางระบบป้องกันร่วมกับแฟน ใช้เวลาเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงก็เสร็จสมบูรณ์ และเมื่อเกิดน้ำท่วมรอบถัดมา บ้านของเขาไม่ถูกน้ำท่วมอีกเลย แม้จะมีน้ำซึมเข้ามาบ้างเล็กน้อยก็ตาม
เขาระบุว่าอุปกรณ์สำคัญที่สุดคือ เครื่องปั่นไฟ เพราะหากไฟดับจะไม่สามารถใช้ปั๊มน้ำสูบน้ำออกจากบ้านได้ โชคดีว่ามีปั๊มน้ำหลายตัวอยู่แล้วเนื่องจากเลี้ยงปลา ส่วนวัสดุหลักในการป้องกันคือ ผ้าใบ และ เหล็ก โดยนำผ้าใบวัดขนาดให้พอดีกับประตูบ้าน ใช้เหล็กทับและยึดติดกับรั้วเพื่อเพิ่มความแข็งแรง พร้อมทั้งอุดท่อน้ำทิ้งด้วยผ้าและก้อนหินเพื่อป้องกันน้ำย้อนกลับเข้ามา
นายวิชาฤทธิ์เผยว่า แนวคิดทั้งหมดมาจากการศึกษาคลิปในยูทูบและวิธีการป้องกันน้ำท่วมในต่างประเทศ ก่อนปรับใช้เข้ากับบ้านของตัวเอง ซึ่งผลลัพธ์ออกมาดีกว่าที่คาด หากทำตั้งแต่รอบแรก บ้านอาจไม่ถูกน้ำท่วมเลยแม้แต่ครั้งเดียว
นอกจากนี้ บ้านของเขายังเป็นหลังเดียวในโครงการที่ไฟไม่ดับ ส่งผลให้เพื่อนบ้านกว่า 20 ครัวเรือนเข้ามาขอใช้ไฟชาร์จโทรศัพท์ พาวเวอร์แบงก์ และอุปกรณ์จำเป็นอื่น ๆ ตลอดทั้งวัน ซึ่งเขาเปิดให้ใช้ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เนื่องจากเป็นประธานหมู่บ้านและต้องการช่วยเหลือทุกคนท่ามกลางสถานการณ์วิกฤต
ท้ายที่สุด นายวิชาฤทธิ์ฝากข้อคิดว่า การป้องกันน้ำท่วมไม่ใช่เรื่องยาก หากมีการเตรียมตัวและประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า โดยเฉพาะบ้านที่ไม่ได้เผชิญระดับน้ำสูงมาก พร้อมเตือนผู้ประสบภัยว่าไม่ควรรอเพียงความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ เพราะในช่วงน้ำท่วมหนัก เจ้าหน้าที่อาจเข้าถึงพื้นที่ได้ล่าช้า และย้ำว่าหากมีประกาศอพยพ ควรออกจากพื้นที่ทันทีเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและครอบครัว






