เตือน ถั่ว 2 ชนิด ทำร้ายตับ แม้มีประโยชน์ก็ไม่ควรกินมากเกินไป
ถั่วบางชนิดอาจกลายเป็นภาระต่อ ตับ ได้ หากรับประทานบ่อยเกินไป โดยเฉพาะ ถั่วปากอ้า และ ถั่วฝักยาว
ถั่วปากอ้ามีสาร vicine และ convicine ซึ่งสามารถกระตุ้นให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกในผู้ที่ขาดเอนไซม์ G6PD ส่งผลให้ตับต้องทำงานหนักขึ้นในการจัดการกับเฮโมโกลบินจากเลือดที่ถูกทำลาย หากเกิดขึ้นรุนแรงอาจก่อให้เกิดโรคที่เรียกว่า favism ซึ่งเป็นภาวะอันตรายที่ต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์

คำแนะนำกินถั่วปากอ้า
- ไม่ควรกินเกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 100 กรัม
- แช่น้ำอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนปรุง
- ต้มหรือปรุงให้สุกทั่ว แล้วทิ้งน้ำต้ม

ถั่วฝักยาวมีสาร lectin ซึ่งเป็นพิษธรรมชาติของพืช (phytotoxin) ที่อาจรบกวนการดูดซึมสารอาหารและกระบวนการเผาผลาญในตับ เมื่อรับประทานในปริมาณมากหรือเป็นเวลานาน ตับจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อกรองสารพิษและจัดการของเสียจากการย่อยอาหาร

คำแนะนำกินถั่วฝักยาว
- ไม่ควรกินเกินสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 150 กรัม
- ควรลวกหรือผัดให้สุกก่อนรับประทาน เพื่อช่วยลดสาร lectin
- หลีกเลี่ยงการกินคู่กับอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เครื่องในหรือเนื้อแดง เพราะอาจยับยั้งการดูดซึม
ข้อมูลsoha.vn






