จากเว็บต่างประเทศ ได้รายงานว่า ผักชนิดนี้ได้รับการยกย่องให้เป็น "ผักจักรพรรดิ" หรือ "ราชาแห่งผัก" และมักปรากฏในงานเลี้ยงของราชวงศ์จีน ในอาหารจีนโบราณ มีผักป่าชนิดหนึ่งที่ได้รับการยกย่องให้เป็นอาหารของจักรพรรดิ ผักเบญจมาศ หรือ ตันโอ มักปรากฏในงานเลี้ยงของราชวงศ์ มักมีภาพลักษณ์ที่สง่างามและเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย หนังสือพิมพ์แดนเวียดรายงานว่า ผักเบญจมาศในเวียดนามได้รับการยกย่องให้เป็น "ผักจักรพรรดิ" หรือ "ราชาแห่งผัก"

ในเวียดนาม ผักชนิดนี้ยังปลูกกันทั่วไป ส่วนใหญ่ใช้เพื่อรับประทาน มีบางส่วนที่นำมาใช้เป็นยา เมื่อนำมาใช้เป็นยา ผักเบญจมาศสามารถนำมารับประทานสดหรือตากแห้งในที่ร่มได้ อย่างไรก็ตาม หลายคนไม่ชอบรับประทานผักเบญจมาศเนื่องจากมีกลิ่นฉุนเล็กน้อยและรสขมเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เข้าใจคุณค่าของ ผักเก๊กฮวย ย่อมรู้ว่าผักชนิดนี้ควรค่าแก่การนำมาประกอบอาหารทุกวัน

ผักเก๊กฮวย - สมุนไพรอันทรงคุณค่า

ผักเก๊กฮวยไม่เพียงแต่เป็นอาหารเท่านั้น แต่ยังได้รับการยกย่องให้เป็นสมุนไพรในตำรับยาแผนโบราณมาอย่างยาวนาน ตำรับยาแผนโบราณระบุว่าผักชนิดนี้มีรสหวานอมขมเล็กน้อย มีสรรพคุณเย็น ช่วยดับร้อน ขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร และล

หนังสือพิมพ์ Health and Life ระบุว่า วิธีรักษาที่นิยมใช้ผักเก๊กฮวย ได้แก่
รักษาอาการไอเรื้อรัง: เด็กๆ มักนำผักเก๊กฮวยมานึ่งกับน้ำตาลเพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอ ส่วนผู้ใหญ่สามารถต้มผักเก๊กฮวยกับปอดหมูเพื่อบรรเทาอาการไอจากหวัดได้ ช่วยย่อยอาหารและอาการเบื่ออาหาร: ซุปผักเก๊กฮวยปรุงด้วยเนื้อไม่ติดมันหรือขิงฝานบางๆ เพื่อช่วยอุ่นม้ามและกระเพาะอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งหายจากอาการป่วย บรรเทาอาการหวัดและไข้: โจ๊กร้อนๆ ที่ราดลงบนผักเก๊กฮวยสับโดยตรงจะช่วยให้ร่างกายขับเหงื่อได้ง่าย ลดอาการหวัดเล็กน้อย ลดอาการท้องเสียและอุจจาระเหลว: ผักเก๊กฮวยที่ต้มในซุปหลายวันติดต่อกันมีผลในการทำให้กระเพาะอาหารอบอุ่นและช่วยปรับสมดุลการย่อยอาหาร ช่วยลดความดันโลหิตและความเครียด: ด้วยน้ำมันหอมระเหย กรดอะมิโน และแร่ธาตุตามธรรมชาติ ผักเก๊กฮวยจึงช่วยสงบประสาท ลดความวิตกกังวล และลดความดันโลหิต ช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะและปวดศีรษะ: บางสูตรอาจใช้ปลาคาร์พ หรือต้มผักเก๊กฮวยเพื่อเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและลดอาการปวดหัวเรื้อรังดอาการไอ ด้วยสรรพคุณอันอ่อนโยนของผักเก๊กฮวย ผักเก๊กฮวยจึงถูกนำมาประกอบเป็นยาพื้นบ้านมากมายทั้งสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก

วิธีรับประทานเก๊กฮวยใบอ่อน

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเก๊กฮวยและรสชาติของชาดอกไม้แห้ง เก๊กฮวยใบอ่อนถือเป็นผักที่ควรลองอย่างยิ่ง

หากเป็นผักอ่อน ผู้ใช้สามารถรับประทานแบบสดๆ ในสลัดได้ เพราะทั้งใบและก้านมีความนุ่ม หวาน และไม่ขมเกินไป

อย่างไรก็ตาม เก๊กฮวยใบอ่อนส่วนใหญ่ในท้องตลาดมักเป็นผักที่โตเต็มที่ และจะมีรสชาติดีกว่าเมื่อนำไปปรุงสุก เมื่อนำไปนึ่งหรือต้มอย่างรวดเร็ว เก๊กฮวยใบอ่อนจะมีกลิ่นหอมของสมุนไพร มีรสหวานเล็กน้อยที่ก้าน และมีความกรุบกรอบที่ลงตัว

สิ่งสำคัญที่สุดในการปรุงเก๊กฮวยใบอ่อนคืออย่าต้มนานเกินไป ผักชนิดนี้สุกเร็วมาก อาจเละและเสียรสชาติได้ภายในไม่กี่วินาที หากปล่อยก้านไว้ เก๊กฮวยใบอ่อนจะต้องนำไปลวกในน้ำเดือดประมาณ 20-30 วินาทีเท่านั้น ถ้าหั่นเป็นชิ้นๆ เวลาก็จะสั้นลงอีก ใบเก๊กฮวยจะนุ่มเมื่อสุก

หลายคนชอบลวกใบเก๊กฮวยอย่างรวดเร็ว พักให้เย็น แล้วคลุกเคล้ากับซอส อาหารญี่ปุ่นมีส่วนผสมที่ขึ้นชื่อมาก นั่นคือการนำใบเก๊กฮวยมาผสมกับซอสงา รสชาติงาเข้มข้นและมันเยิ้มจากเมล็ดงาคั่วบด ผสมกับทาฮีนี (แป้งที่ทำจากงาบด) น้ำส้มสายชูข้าว ซีอิ๊วขาว มิริน (เหล้าญี่ปุ่นรสหวาน) และดาชิ (น้ำซุป) เล็กน้อย ทำให้เกิดส่วนผสมที่เข้มข้นและหอมกรุ่น ช่วยขับเน้นรสชาติสดชื่นของใบเก๊กฮวย