เรียกได้ว่า สร้างความสะเทือนใจให้แฟนๆ ทั่วประเทศ เมื่อนักแสดงสาวดังไต้หวัน อย่าง ต้าเอส เสียชีวิตอย่างกะทันหันในวัยเพียง 49 ปี ด้วยอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ แต่หลายสื่อ และ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า พฤติกรรมการดูแลตัวเองสุดโต่ง เพื่อความงาม อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สุขภาพของเธอ ทรุดลงอย่างรวดเร็ว

โดย ผู้กำกับชื่อดัง หว่องจิง เผยว่า ต้าเอส หมกมุ่นเรื่องผิวขาวมาตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ เพราะเธอ มีผิวเข้มตามธรรมชาติ จึงทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ผิวดูขาวขึ้น ทั้งหลบแดดตลอดเวลา ทากันแดดหลายชั้น และงดอาหารที่ทำให้ผิวคล้ำ แม้กระทั่งมีข้อมูลว่า เธอ เคยฉีดสารที่มีผลต่อการแข็งตัวของโลหิตเพื่อให้ผิวซีดลง ซึ่งถือว่า อันตรายมาก

เรื่องรูปลักษณ์ก็เข้มงวดไม่แพ้กัน ต้าเอส สูง 162 ซม. แต่ควบคุมน้ำหนักไว้เพียง 42–44 กก. เธอไม่แตะของหวานมากว่าสิบปี กินอาหารเพียงเล็กน้อยต่อวัน และเคยทดลองใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าเพื่อลดไขมัน นอกจากนี้ เธอ ยังเป็นมังสวิรัติที่เลือกกินเฉพาะผักเหี่ยว หรือ ผักเน่า เพราะเชื่อว่าผักสด ยังมีชีวิตอยู่

ต้าเอสเคยเปิดเผยความคิดสุดโต่งเกี่ยวกับความงามว่า ถ้าให้ขาวเหมือนหลอดไฟนีออน ฉัน ยอมเสียชีวิตดีกว่าโดนแดด และ ไม่ผอมก็เสียชีวิตไปเลย ต่อให้เป็นยาพิษก็จะกิน คำพูดเหล่านี้ สะท้อนแรงกดดันที่ เธอ มีต่อตัวเอง เพื่อให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ราชินีความงาม

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า พฤติกรรมเหล่านี้ค่อยๆ ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย จนไม่สามารถต่อสู้กับไข้หวัดใหญ่ได้ เหตุการณ์นี้ จึงเป็นบทเรียนสำคัญ ว่าการยึดติดกับความงามจนแลกด้วยสุขภาพ เป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่า และ อันตรายอย่างยิ่ง

เรียบเรียงโดย news.in.th