เช็กพื้นที่เฝ้าระวัง เขื่อนเจ้าพระยา ปรับการระบายน้ำ

เช็กพื้นที่เฝ้าระวัง เขื่อนเจ้าพระยา ปรับการระบายน้ำ

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา กรมชลประทานรายงานว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศฉบับที่ 29/2568 เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก หลังติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรธรณี กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่า ระหว่างวันที่ 7-10 พฤศจิกายน 2568 ประเทศไทยมีโอกาสเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ อาจส่งผลให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มได้

กรมชลประทานคาดการณ์ปริมาณน้ำที่สถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ จะเพิ่มขึ้นประมาณ 2,900-3,000 ลบ.ม./วินาที ขณะที่น้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาเพิ่มขึ้นประมาณ 400 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 3,300-3,400 ลบ.ม./วินาที และมีการรับน้ำเข้าระบบชลประทานฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกรวม 550 ลบ.ม./วินาที

ภายใต้เกณฑ์การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติอนุญาตให้ปรับเพิ่มการระบายน้ำมากกว่า 2,700 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและพื้นที่ลุ่มต่ำในจังหวัดต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้น ประกอบด้วย อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท รวมทั้งตำบลและอำเภอต่าง ๆ ที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย

กรมชลประทานจึงออก ประกาศเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เตรียมรับมือกับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

กรมชลประทานเน้นย้ำประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือ หากระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมรายงานความคืบหน้าอย่างทันท่วงที.

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ