กรมอุตุฯ เตือน 45 จังหวัด ฝนตกหนัก
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ระบุว่า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีลมแรง โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” (KALMAEGI) ที่บริเวณเมืองกอนตูม ประเทศเวียดนามได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง และมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน เคลื่อนผ่านประเทศลาว เข้าปกคลุมพื้นที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงบ่ายของวันนี้ ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในเวลาต่อมา
ลักษณะอากาศเช่นนี้จะทำให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมมีลมแรง ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่มต่ำ และพื้นที่น้ำท่วมขัง เกษตรกรควรเตรียมป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับผลผลิตทางการเกษตร
ภาคเหนือ
อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และพิจิตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมมีลมแรง
บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร มุกดาหาร สุรินทร์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ขอนแก่น บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง






