เหล่าพ่อค้าแม่ค้าแฮปปี้ ใช้คนละครึ่งพลัสกันคึกคัก วอนรัฐบาลทำเฟส2
วันที่ 30 ตุลาคม 2568 ได้มีการลงพื้นที่ตลาดเทศบาล 1 เทศบาลนครอุดรธานี พบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อสินค้ากันอย่างคึกครื้น หลายร้านค้าระบุว่า ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า สะท้อนว่าโครงการ คนละครึ่งพลัส ช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนได้จริง
เจ้าของร้านข้าวรายหนึ่งเปิดเผยว่า ตั้งแต่เข้าร่วมโครงการ ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลูกค้ากลับมาจับจ่ายมากขึ้นเพราะได้รับสิทธิ์ช่วยลดค่าใช้จ่าย รอบที่ผ่านมา ยอดขายไม่ค่อยดี แต่พอโครงการกลับมา ยอดขายก็ดีขึ้น เห็นกำไรมากขึ้น คนอยากได้สิทธิ์เพราะของแพงขึ้น แต่กำลังซื้อลดลง อย่างคนมีเงิน 100 บาท ปกติซื้อได้แค่ไข่ แต่พอใช้สิทธิ์ก็ได้ทั้งข้าวทั้งไข่ เพราะรัฐช่วยจ่ายเพิ่ม
แม่ค้ารายนี้ยังฝากถึงรัฐบาลว่า หากมีโครงการลักษณะนี้ออกมาอย่างต่อเนื่องจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ค้าและผู้บริโภค โดยเสนอให้เพิ่มวงเงินจาก 2,000 บาท เป็น 3,000 บาท เพื่อให้ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น และอยากให้สิทธิ์กระจายทั่วถึง เนื่องจากมีหลายคนลงทะเบียนไม่ทัน
ด้านพนักงานเชียร์สินค้ารายหนึ่งกล่าวว่า ตนได้ออกมาใช้สิทธิ์เช่นกัน แม้ช่วงเช้าจะประสบปัญหาเข้าระบบล่าช้า เพราะมีผู้ใช้งานจำนวนมาก แต่ต่อมาระบบกลับมาใช้งานได้ตามปกติ โครงการนี้ช่วยประหยัดเงินได้มาก เหมาะกับคนหาเช้ากินค่ำ หรือคนที่เงินเดือนยังไม่ออก วันนี้มาซื้อไข่ตุนไว้ครึ่งเดือน ปกติใช้เงินวันละ 500-600 บาท พอดีมีโครงการนี้ช่วยลดภาระได้เยอะ อยากให้รัฐทำต่อไปเรื่อยๆ
ขณะที่พ่อค้าขายปลาหมึกแห้งเผยว่า ครั้งนี้ยอดขายดีขึ้นมากจากการที่เข้าร่วมโครงการ หลังจากก่อนหน้านี้ไม่ได้เข้าร่วมทำให้ยอดขายซบเซา โครงการแบบนี้ดีมาก เพราะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ คนออกมาซื้อของเยอะขึ้น และช่วยให้คนที่มีกำลังซื้อน้อยได้ของเพิ่มขึ้น
ประชาชนและผู้ค้าต่างเห็นตรงกันว่า คนละครึ่งพลัส เป็นมาตรการที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับฐานรากได้จริง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้าโครงการต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง






