วันที่ 18 ตุลาคม 2568 บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองในบางพื้นที่ ขณะที่ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองหลายแห่ง และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ประเทศไทย และทะเลอันดามัน

ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ควรระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้ โดยเฉพาะในช่วงเดินทาง ควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม

บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร แต่ในพื้นที่ที่มีฝนฟ้าคะนองอาจมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สำหรับพายุโซนร้อน เฟิงเฉิน ซึ่งทวีกำลังแรงขึ้นจากดีเปรสชันบริเวณตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเคลื่อนผ่านตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์เข้าสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในช่วงวันที่ 18-19 ตุลาคม 2568 จากนั้นจะเคลื่อนเข้าใกล้เกาะไหหลำ ประเทศจีน ในช่วงวันที่ 21-22 ตุลาคม 2568 ก่อนจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่

บริเวณที่มีฝนตก: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่

บริเวณที่มีฝนตก: ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่

บริเวณที่มีฝนตก: กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่

บริเวณที่มีฝนตก: ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่

และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณที่มีฝนตก: ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่

บริเวณที่มีฝนตก: ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง