
กรมอุตุฯ เตือน 35 จังหวัด ฝนตกหนัก
วันที่ 2 ตุลาคม 2568 สภาพอากาศโดยรวมของประเทศไทยในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า มีแนวโน้มว่าปริมาณฝนจะเริ่มลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และตาก ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มต่ำ
สถานการณ์นี้เกิดจากลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อน
สำหรับทะเลอันดามันตอนบน ยังคงมีคลื่นสูง 1-2 เมตร โดยบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
พายุดีเปรสชัน บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน และคาดว่าจะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนบนในช่วงวันที่ 3-4 ตุลาคม 2568 จากนั้นอาจเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 5-6 ตุลาคม 2568
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง สุโขทัย และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา กระบี่ และตรัง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง