
ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอ่วม 5 ตำบล ชาวบ้านขนของนอนริมถนน
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 สถานการณ์น้ำบริเวณเขื่อนเจ้าพระยา ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท พบว่าปริมาณน้ำจากทางเหนือที่ไหลเข้าสู่เขื่อนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากจุดวัดน้ำ C2 บริเวณหน้าค่ายจิรประวัติ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ระบุว่า ขณะนี้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนมากถึง 2,673 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเพิ่มขึ้นอีก 11 เซนติเมตร ภายในเวลา 24 ชั่วโมง โดยล่าสุดระดับน้ำอยู่ที่ 15.99 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง (ม.รทก.)
แม้พายุ บัวลอย จะอ่อนกำลังลงแล้ว แต่ยังคงเสริมแรงให้ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคกลางตอนบนมีกำลังแรง ส่งผลให้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่
กรมชลประทานจึงปรับแผนระบายน้ำเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับน้ำเหนือ โดยเพิ่มอัตราการระบายจากเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และยังคงอัตรานี้ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ส่งผลให้ระดับน้ำ ท้ายเขื่อน ยกตัวขึ้นอีก 25 เซนติเมตรใน 24 ชั่วโมง ล่าสุดวัดได้ 15.47 ม.รทก.
ด้วยสถานการณ์ดังกล่าว กรมชลประทานจึงประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ไปจนถึงจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา เตรียมรับมือกับระดับน้ำที่คาดว่าจะ เพิ่มขึ้นอีก 20-30 เซนติเมตรใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า
ขณะเดียวกัน บริเวณริมถนนทางหลวงชนบทหมายเลข ชน.3018 หรือ ถนนคันคลองมหาราช เริ่มเห็นผลกระทบชัดเจนมากขึ้น โดยมีประชาชนมากกว่า 15 ครัวเรือน ต้องอพยพหนีน้ำท่วมขึ้นมาตั้งเพิงพักชั่วคราวริมถนน บางรายเช่าเต็นท์ บางรายสร้างเพิงพักเองเพื่ออยู่อาศัยชั่วคราว
พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการตั้งเพิงพักเรียงรายยาวตั้งแต่หมู่ 1 ตำบลโพนางดำออก อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ไปจนถึงตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ส่งผลให้การจราจรบางช่วงเหลือเพียงช่องเดินรถเดียว
ชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า ระดับน้ำในหลายจุดได้ ล้นตลิ่ง ทำให้ไม่ไว้วางใจสถานการณ์ จึงจำเป็นต้องขนของขึ้นมาอยู่บนถนนก่อนอย่างน้อยจนกว่าน้ำลดลง
ด้านเทศบาลได้ติดตั้งป้ายเตือนผู้ใช้รถในเส้นทางดังกล่าว ขอความร่วมมือลดความเร็วเพื่อความปลอดภัย หลังพบว่ามีผู้ขับขี่บางรายใช้ความเร็วสูงและขับขี่อย่างคึกคะนอง จนเกือบเกิดอุบัติเหตุมาแล้วหลายครั้งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า พื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในขณะนี้คือ อำเภอสรรพยา ซึ่งอยู่บริเวณท้ายเขื่อน โดยมีน้ำท่วมใน 5 ตำบล 16 หมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 200 ครัวเรือน หรือคิดเป็น ผู้ได้รับผลกระทบ 520 คน ทั้งหมดเป็นพื้นที่ อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ
ระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือนอยู่ในช่วง 15-150 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับลักษณะพื้นที่
ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ พร้อมเตรียมรับมือสถานการณ์ในช่วงวันที่ฝนยังตกต่อเนื่อง และมีการระบายน้ำเพิ่มจากเขื่อนเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง