เรียกได้ว่า บ้านพักคนชรา กลายเป็นทางเลือก ที่หลายครอบครัวเริ่มวางแผนไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะในยุคที่ ลูกหลาน ทำงานกันหนัก และไม่สามารถดูแลผู้สูงวัยได้ตลอดเวลา บ้านพักคนชรา จึงตอบโจทย์ทั้งด้านการดูแลสุขภาพ ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ที่มีคุณภาพ ซึ่งปัจจุบัน ก็มีให้เลือกทั้งแบบของรัฐ และเอกชน ตามงบประมาณที่มีอยู่

สำหรับปี 2568 นี้ ราคาบ้านพักคนชรา มีตั้งแต่ หลักพันไปจนถึงหลักแสนบาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับระดับการดูแล และสิ่งอำนวยความสะดวก ตั้งแต่บ้านพักคนชราของรัฐ สำหรับผู้มีรายได้น้อย ที่จ่ายเพียง 1,500 ถึง 2,000 บาทต่อเดือน ไปจนถึงโรงพยาบาลเอกชน ที่มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 140,000 บาท/เดือน เช่น รพ.กรุงเทพ ที่มีการดูแลแบบครบวงจร

คุณสมบัติผู้เข้าพักบ้านพักคนชราของรัฐ

1. อายุ 60 ปีขึ้นไป / สัญชาติไทย

2. มีฐานะยากจน ขาดคนดูแล หรือไม่มีที่อยู่อาศัย

3. ไม่เป็นผู้ต้องหา / ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง

4. สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ระดับหนึ่ง

โดย มีสถานที่บ้านพักคนชรา ดังนี้

บ้านบางแค

ราคา 1,500 บาทต่อเดือน

ราคา 18,000 บาทต่อปี

ราคา 360,000 บาทตลอด 20 ปี

บ้านเย็นจิต

ราคา 10,000 บาทต่อเดือน

ราคา 120,000 บาทต่อปี

ราคา 2,400,000 บาทตลอด 20 ปี

แสนสิริ โฮม แคร์

ราคา 16,000 บาทต่อเดือน

ราคา 192,000 บาทต่อปี

ราคา 3,840,000 บาทตลอด 20 ปี

คุณตา คุณยาย เนอร์สซิ่งโฮม

ราคา 16,000 บาทต่อเดือน

ราคา 192,000 บาทต่อปี

ราคา 3,840,000 บาทตลอด 20 ปี

เอลเดอร์ลี่คลับเนอร์สซิ่งโฮม

ราคา 16,000 บาทต่อเดือน

ราคา 192,000 บาทต่อปี

ราคา 3,840,000 บาทตลอด 20 ปี

โกลเด้นแคร์เนอร์สซิ่งโฮม

ราคา 16,000 บาทต่อเดือน

ราคา 192,000 บาทต่อปี

ราคา 3,840,000 บาทตลอด 20 ปี

เถาจือโฮม

ราคา 20,000 บาทต่อเดือน

ราคา 240,000 บาทต่อปี

ราคา 4,800,000 บาทตลอด 20 ปี

ด็อกเตอร์เนอร์สซิ่งโฮม

ราคา 26,000 บาทต่อเดือน

ราคา 312,000 บาทต่อปี

ราคา 6,240,000 บาทตลอด 20 ปี

ดิษฐ์ราเนอร์สซิ่งโฮม

ราคา 26,000 บาทต่อเดือน

ราคา 312,000 บาทต่อปี

ราคา 6,240,000 บาทตลอด 20 ปี

รพ.ผู้สูงอายุ กล้วยน้ำไท

ราคาต่อเดือน: 30,000 บาท

ราคาต่อปี: 360,000 บาท

ราคาต่อ 20 ปี: 7,200,000 บาท

รพ.เปาโล

ราคาต่อเดือน: 100,000 บาท

ราคาต่อปี: 1,200,000 บาท

ราคาต่อ 20 ปี: 24,000,000 บาท

รพ.กรุงเทพ

ราคาต่อเดือน: 140,000 บาท

ราคาต่อปี: 1,680,000 บาท

ราคาต่อ 20 ปี: 33,600,000 บาท

ถึงแม้ รัฐจะมีสวัสดิการอย่างเบี้ยผู้สูงอายุ 600 ถึง 1,000 บาทต่อเดือน แต่ก็ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพ โดยเฉพาะ ผู้สูงวัย ที่ต้องการอยู่ในสถานดูแล แบบระยะยาว จำเป็นต้องมีเงินออม เงินบำนาญ หรือได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ว่า จะเป็นค่าบริการ ค่าน้ำ หรือ ไฟ หรือค่ารักษาพยาบาล ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

สรุปคือ การวางแผนการเงินตั้งแต่วันนี้ เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่า จะเลือกบ้านพักของรัฐ หรือ เอกชน การรู้ตัวเลขที่ต้องเตรียมไว้ จะช่วยให้ ผู้สูงวัย ใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างมั่นคง ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในช่วงปลายทางของชีวิต

เรียบเรียงโดย news.in.th