พอกันที! ยูเอ็น ร้องไทย-กัมพูชาหยุดยิง ตกใจโบราณสถานถูกถล่ม
19 ธันวาคม 2568 นายโวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ ไทยและกัมพูชา หยุดการสู้รบทันที รวมถึงยุติการโจมตีทางอากาศและการใช้ปืนใหญ่อาวุธหนักในพื้นที่ที่มีประชาชนอยู่อาศัยหนาแน่น พร้อมระบุว่า การโจมตีดังกล่าวก่อให้เกิดความกังวลอย่างมากต่อการคุ้มครองพลเรือน
เติร์กระบุว่า เขาตกใจกับรายงานที่ระบุว่า พื้นที่รอบหมู่บ้านและโบราณสถานถูกโจมตีด้วย เครื่องบินรบ, โดรน และปืนใหญ่ กฎหมายระหว่างประเทศกำหนดว่าการคุ้มครองพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
รายงานจากกัมพูชาระบุว่า มี พลเรือนเสียชีวิต 18 คน นับตั้งแต่การสู้รบเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ส่วนไทยมี พลเรือนเสียชีวิต 1 คน โดยยังมีรายงานการโจมตีลึกเข้าไปในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ
ข้าหลวงใหญ่ UN ยังระบุว่า อาคารคาสิโนและกลุ่มอาคารที่อ้างว่าเป็นฐานปฏิบัติการของ กลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ ในกัมพูชา ถูกโจมตีเช่นกัน ซึ่งบุคคลหลายสัญชาติที่ถูกล่อลวงมาบังคับทำงานในฐานปฏิบัติการเหล่านี้กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงสูง เติร์กเรียกร้องให้มีการอพยพบุคคลที่ยังถูกคุมขังในพื้นที่เหล่านี้โดยทันที
ตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ การโจมตีทุกครั้งต้องเป็นไปตามหลักการ การเลือกเป้าหมาย, ความจำเป็น, สัดส่วน และความระมัดระวังต่อพลเรือน หากพบรายงานที่น่าเชื่อถือว่ามีการโจมตีผิดกฎหมาย จะต้องถูกตรวจสอบอย่างเร่งด่วน
การสู้รบระหว่างไทยและกัมพูชา ทำให้ประชาชนราว 750,000 คนต้องอพยพออกจากบ้าน การคุ้มครองชีวิตและความปลอดภัยของพลเรือน รวมถึงการเปิดทางให้ประชาชนกลับสู่บ้านของตัวเองอย่างปลอดภัย เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
เติร์กย้ำว่า ทั้งไทยและกัมพูชาต้องปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Ottawa Convention) พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่าย หยุดยิงทันทีและกลับสู่การเจรจา ขณะเดียวกัน สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านการสร้างความเชื่อมั่นและการคุ้มครองชีวิตของประชาชน






