เขมรระดมยิงหนัก! ก่อนถูกไทยตอบกลับทันควัน พบรอยกระสุนปืนหลายจุด
ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 11 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา บริเวณอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เกิดการปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาอย่างหนัก ทหารทั้งสองฝ่ายระดมยิงปืนใหญ่และจรวด BM-21 เข้าหากันต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง เป้าหมายหลักอยู่ที่ปราสาทตาควาย ตำบลบักได อ.พนมดงรัก และปราสาทคนา ตำบลแนงมุด อ.กาบเชิง
ระหว่างเหตุการณ์ ชุด ชรบ. ชาวบ้าน และผู้สื่อข่าวต้องหลบเข้าบังเกอร์เพื่อความปลอดภัย หลังเสียงปืนเริ่มลดลง พบโดรนปริศนาลำหนึ่งบินวนเหนือหมู่บ้านโดยไม่มีแสงไฟ ผู้ใหญ่บ้านสั่งปิดไฟบริเวณนั้นทันทีเพื่อสังเกตและประเมินความเสี่ยง
นายอภินพ อนุทูล ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก ระบุว่า ได้กำชับชุด ชรบ.ให้สังเกตโดรนอย่างใกล้ชิด โดยโดรนที่บินสูงมีไฟมักเป็นโดรนตรวจการณ์ ส่วนอันตรายที่สุดคือโดรนที่บินต่ำประมาณ 20 เมตรและปิดไฟ อาจเป็นโดรนพลีชีพของฝ่ายตรงข้าม หากพบต้องแจ้งเจ้าหน้าที่หรือฝ่ายความมั่นคงทันที พร้อมทั้งตรวจตราความปลอดภัยบ้านเรือนที่ผู้อพยพออกไปเป็นระยะทุก 2-3 ชั่วโมง
เช้าวันที่ 12 ธันวาคม เวลา 06.30 น. กัมพูชาเปิดฉากยิงปะทะต่อเนื่องตามแนวชายแดนปราสาทตาควาย ช่องกร่าง และปราสาทตาเมือนธม โดยใช้ปืนใหญ่และปืนค.ยิงเป็นชุด ๆ แต่ยังไม่พบการยิงจรวด BM-21 เข้ามา ขณะที่เวลา 08.30 น.ในพื้นที่ชายแดนช่อง ยังไร้เสียงปืนอย่างผิดปกติ ต่างจากเมื่อวานที่เริ่มยิงตั้งแต่ 07.00 น. มีจรวด BM-21 กระสุนปืนใหญ่และปืนค.ตกในไร่นาและพื้นที่ใกล้หมู่บ้านด่านและตลาดช่องจอม โดยร่องรอยกระสุนปืนค.ตกบนถนนเส้นหลังตลาดชายแดนช่องจอม 1 ลูก

เจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนยังคงเฝ้าติดตามและตรวจตราความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด และรอประเมินสถานการณ์เพิ่มเติม






