อันตรายกว่าที่คิด! หมอเผยข้อควรรู้ เกี่ยวกับไซยาไนด์
วันที่ 7 ธันวาคม 2568 นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสารพิษ ไซยาไนด์ ซึ่งสามารถพบได้ทั้งในธรรมชาติ เช่น ในมันสำปะหลังดิบ รวมถึงในรูปแบบสารสังเคราะห์ทางเคมี โดยมีอยู่ 3 ลักษณะ ได้แก่ ผงสีขาว ของเหลว และแก๊สไซยาไนด์
สารชนิดนี้ยังพบได้ในผลิตภัณฑ์และกระบวนการต่าง ๆ เช่น น้ำยาถอดเล็บบางชนิด น้ำยาล้างเครื่องเงิน ยาเบื่อปลา รวมถึงอุตสาหกรรมการถลุงแร่ ทั้งนี้ พิษไซยาไนด์อาจเกิดจากอุบัติเหตุจากการสัมผัสโดยไม่ตั้งใจ หรือเกิดจากความตั้งใจได้เช่นกัน
นพ.ณัฐพงศ์ ระบุว่า ไซยาไนด์สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งจากการสูดดม การรับประทาน หรือการสัมผัสทางผิวหนัง และทำให้เกิดอาการพิษได้อย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยมักมีอาการใจสั่น ปวดศีรษะ ชัก หมดสติ และอาจเสียชีวิตภายในไม่กี่นาที
สำหรับการวินิจฉัยพิษไซยาไนด์ ไม่สามารถอาศัยอาการภายนอกเพียงอย่างเดียว เพราะไม่มีสัญญาณเฉพาะเจาะจง แพทย์ต้องตรวจเลือดและน้ำล้างกระเพาะเพื่อวัดระดับไซยาไนด์ในร่างกายอย่างชัดเจน
ด้าน พญ.พลอยไพลิน รัตนสัญญา แพทย์เชี่ยวชาญจากศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี แนะนำวิธีป้องกันพิษไซยาไนด์ว่า ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารโดยตรง และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ไม่ทราบแหล่งที่มา ควรเลือกสิ่งที่บรรจุในภาชนะปิดมิดชิด
สำหรับการปฐมพยาบาลพิษไซยาไนด์ ปัจจุบันยังไม่มีแนวทางเฉพาะเจาะจง หากสารกระเด็นเข้าตาหรือโดนผิวหนังให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดทันที และส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาล หากเสื้อผ้าเปื้อนสารต้องรีบถอดออกและเปลี่ยนใหม่
กรณีสารเข้าปาก ให้รีบบ้วนปากแต่ห้ามล้วงคอหรือกระตุ้นให้อาเจียน จากนั้นนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน ส่วนกรณีสูดดมไซยาไนด์ในรูปแบบแก๊ส ต้องรีบนำผู้ป่วยออกจากพื้นที่เกิดเหตุ และรีบส่งโรงพยาบาลเช่นกัน






