ไม่ได้มีแค่ที่ลับ! แพทย์เตือน 3 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ลามขึ้นหน้าได้ ระวังเสียโฉม
หลายคนยังเข้าใจว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มักแสดงอาการเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศเท่านั้น แต่ความจริงแล้วเชื้อบางชนิดสามารถลุกลามขึ้นสู่ใบหน้าได้เช่นกัน นพ.เฉิน อวี้ซิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะจากไต้หวัน เตือนว่า หากพบจุดแดง ผื่น หรือแผลเปื่อยผิดปกติบนใบหน้า อาจเป็นสัญญาณของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เริม หูด หรือซิฟิลิส ซึ่งแพร่ผ่านการจูบ การทำออรัลเซ็กซ์ หรือการใช้ของร่วมกัน
3 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่อาจ ขึ้นบนหน้า ได้
แพทย์ระบุว่ามีโรคสำคัญ 3 ชนิดที่นอกจากจะเกิดที่อวัยวะเพศแล้ว ยังสามารถกระจายมาบริเวณใบหน้าและช่องปากได้ ได้แก่
1. เริม (Herpes)
เกิดจากเชื้อไวรัส HSV มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสหรือแผลเปื่อยบริเวณริมฝีปากและรอบปาก อาการมักเป็นๆ หายๆ และสามารถติดมาจากอวัยวะเพศผ่านการสัมผัสใกล้ชิด
2. หูดหงอนไก่ (Genital Warts)
เกิดจากการติดเชื้อ HPV นอกจากขึ้นที่อวัยวะเพศแล้ว ยังอาจเกิดรอบปากได้ด้วย ลักษณะเป็นติ่งเนื้อนูนสีเนื้อหรือชมพูอ่อน ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน
3. ซิฟิลิส (Syphilis)
ระยะแรกอาจปรากฏเป็นแผลริมแข็งบริเวณริมฝีปาก โดยไม่รู้สึกเจ็บ แต่หากเข้าสู่ระยะที่ 2 เชื้อจะกระจายทั่วร่างกาย ทำให้เกิดผื่นแดงหรือตุ่มหนองบนใบหน้า ลำตัว และมักมีไข้ ปวดเมื่อย รวมถึงต่อมน้ำเหลืองโต
นพ.เฉินย้ำว่าโรคเหล่านี้แพร่ผ่านการสัมผัสเยื่อบุและสารคัดหลั่ง อาการทางผิวหนังมักคล้ายกับโรคผิวหนังอื่น การสังเกตด้วยตาเปล่าอาจไม่แม่นยำ จึงควรพบแพทย์เพื่อตรวจประวัติ ตรวจร่างกาย และเก็บตัวอย่างแผลไปตรวจห้องแล็บ เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่อาจแสดงอาการบนใบหน้า ควรปฏิบัติดังนี้
-หลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แปรงสีฟัน มีดโกน ผ้าเช็ดตัว
-ใช้ถุงยางอนามัยและมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย
-เข้ารับการฉีดวัคซีนที่สามารถป้องกันบางโรค เช่น HPV
-ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์เป็นประจำควรตรวจคัดกรองโรคทุก 3–6 เดือน
-หากมีความเสี่ยงหรือมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ควรรอประมาณ 3 สัปดาห์ก่อนตรวจ เพื่อให้ผลแม่นยำที่สุด
แหล่งที่มา ETtoday






