ทบ. ชี้ เขมรยังเพิกเฉย ไม่ร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 รายงานเหตุชายชาวจีนลักลอบเข้าประเทศไทยบริเวณบ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ก่อนเหยียบถูกทุ่นระเบิดจนได้รับบาดเจ็บ
พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลทันทีที่ได้รับการช่วยเหลือ พร้อมประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วสอบสวนตามขั้นตอน เนื่องจากเป็นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงออนไลน์ (Cyber Scam) ซึ่งที่ผ่านมา มักพบผู้หลบหนีเข้ามาทางฝั่งไทยในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง
โฆษกกองทัพบกระบุว่า พื้นที่เกิดเหตุอยู่ในแนวปฏิบัติการของฝ่ายไทย ห่างจากถนนศรีเพ็ญประมาณ 90 เมตร เป็นพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดที่กำลังอยู่ระหว่างการเก็บกู้ตามแผน เนื่องจากก่อนหน้านี้พบทุ่นระเบิดจำนวนมากในบริเวณดังกล่าว จากการประเมินสภาพพื้นที่พบว่าฝ่ายกัมพูชาเคยวางทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน เพื่อขัดขวางภารกิจของเจ้าหน้าที่ไทย ส่งผลให้ประชาชนไทยไม่สามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่ซึ่งควรเป็นเขตปลอดภัยได้
ทั้งนี้ ทุ่นระเบิดที่ก่อเหตุยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นชนิดเก่าหรือใหม่ แต่ที่ผ่านมามีการพบหลักฐานการใช้ทุ่นระเบิดแบบ PMN-2 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่จำนวนมาก โดยกัมพูชานำมาใช้ในรูปแบบยุทธวิธีเพื่อขัดขวางคู่ต่อสู้ แม้เหตุการณ์จะส่งผลกระทบทั้งต่อทหารและพลเรือนก็ตาม
พล.ต.วินธัย กล่าวด้วยว่า แม้กัมพูชาเป็นภาคีอนุสัญญาออตตาวา และได้รับเงินสนับสนุนจากนานาชาติเพื่อดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แต่กลับไม่ให้ความร่วมมือกับฝ่ายไทยตามแนวชายแดน รวมถึงเคยขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ไทยในหลายจุด แม้ไทยจะเสนอหารือผ่านการประชุมทวิภาคีหลายครั้งแล้วก็ตาม
เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนความอันตรายของทุ่นระเบิดที่ไม่เลือกเป้าหมายว่าเป็นคนชาติใด อีกทั้งตอกย้ำถึงความไม่รับผิดชอบของกัมพูชาในการร่วมแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยเชื่อว่าข้อมูลข้อเท็จจริงที่ได้รวบรวมและส่งให้องค์กรระหว่างประเทศ จะถูกนำไปใช้พิจารณาอย่างเหมาะสม และทำให้กัมพูชาต้องรับผลจากการใช้ทุ่นระเบิดที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง






