วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568  รายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ปรับลดการระบายน้ำลงอย่างช้าๆ ล่าสุดรายงานระบุว่า เขื่อนเจ้าพระยายังคงระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนในอัตรา 2,020 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งถือว่ายังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยยังคงท่วมสูงและแพร่กระจายไปยังหลายอำเภอของจังหวัด

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม 12 อำเภอ 145 ตำบล 946 หมู่บ้าน ส่งผลกระทบต่อประชาชน 66,794 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 20 ราย

12 อำเภอที่ยังถูกน้ำท่วม ได้แก่ อำเภอเสนา, ผักไห่, บางบาล, บางไทร, พระนครศรีอยุธยา, บางปะอิน, บางปะหัน, บางซ้าย, บ้านแพรก, ลาดบัวหลวง, มหาราช และนครหลวง ความเดือดร้อนของประชาชนยังคงต่อเนื่อง

ได้มีการลงพื้นที่ หมู่ 2 ตำบลวังพัฒนา อำเภอบางซ้าย พบว่าระดับน้ำท่วมสูงครอบคลุมพื้นที่นาของชาวบ้าน หรือที่เรียกว่า ทุ่งบางซ้าย น้ำไหลเข้ามาจากแม่น้ำน้อยผ่านอำเภอเสนามาถึงอำเภอบางซ้าย ส่งผลให้บ้านเรือน พืชสวนไร่นา และถนนทางเข้าออกได้รับความเสียหาย

นาย วินัย ทองคำเจริญ อายุ 67 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่ประกอบอาชีพเกษตรกรผสมผสาน เปิดเผยว่า เขามาอยู่ที่นี่ไม่นาน โดยก่อนหน้านี้อาศัยอยู่กรุงเทพมหานคร และย้ายมาทำเกษตรเพื่อเลี้ยงชีพ ทั้งเลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ด ปลูกผัก และปลูกกล้วย แต่ครั้งนี้น้ำท่วมทำให้สัตว์เลี้ยงและพืชผลเสียหายทั้งหมด ลูกเป็ดที่เพิ่งเกิดจมน้ำตาย ส่วนตัวที่โตว่ายน้ำได้รอดมาได้

นายวินัยกล่าวว่า แม้ปีอื่นจะเคยเจอน้ำท่วมหนัก แต่ตอนนั้นอยู่กรุงเทพฯ คราวนี้อายุ 67 ปีแล้ว กลับมาอยู่ตรงนี้ก็มาเจอสภาพน้ำท่วม สิ่งที่เลี้ยงไว้ปลูกไว้จมน้ำหมด ไม่เหลืออะไร ต้องอาศัยเพื่อนบ้านและหาที่พักชั่วคราว ห้องน้ำก็ใช้งานตามสภาพ เราต้องอยู่กันแบบนี้ไปก่อน