ดร.ธรณ์ เผย 3 สาเหตุ น้ำท่วมหาดใหญ่หนัก ลั่น โลกไม่เหมือนเดิมเเล้ว
ล่าสุดวันนี้ 25 พ.ย. 68 ในรายการโหนกระเเส หนุ่ม กรรชัย ได้เชื่อมสายพูดคุยกับ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ และตัวแทนมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รวมถึงผู้ประสบภัยในพื้นที่ เพื่ออัปเดตสถานการณ์จริงที่กำลังเกิดขึ้นในสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้

ติดตามเรื่องราวน้ำท่วมอยู่ใช่มั้ย?
ดร.ธรณ์ : ใช่ครับ เป็นห่วงเหมือนที่คุณหนุ่มเป็นห่วง ตามเพจต่างๆ มีคนติดอยู่เยอะมากมายมหาศาล จริงๆ ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เพิ่งติดตาม ตั้งแต่สมัยน่าน เชียงราย เกิดเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน พยายามเตือนว่าเหตุการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนในอดีต จะเอาความคิดอดีตว่าน้ำไม่เคยมาถึง น้ำมาไม่เร็วหรอก มีเวลาเตรียมตัวต่างๆ นานาเหล่านี้ มันต่างไปแล้ว โลกไม่เหมือนเดิมเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นแม้แต่การรับมือน้ำ อะไรต่างๆ ใช้ความคิดเมื่อ 20-30 ปีก่อนไม่ได้
ณ ปัจจุบันนี้ เกิดอะไรขึ้นกับทางหาดใหญ่ หนักกว่าคนอื่น ทำไมเขาหนักได้มากกว่าคนอื่นขนาดนั้น
ดร.ธรณ์ : จริงๆ ฝนตกทั้งเขตนะ ฝนที่ตกมาแถวสตูล สงขลา ก็ตกทั้งเขต เป็นเมฆก้อนเดียวกัน รวมตัวกัน มีสามสาเหตุ

1. สาเหตุแรกคือลานีญา ประเทศไทยเข้าช่วงลานีญา แต่เป็นลานีญาอ่อนๆ หมดช่วงก.พ. แต่ก่อนหน้านี้เราก็โดนฝนตกที่ภาคเหนือ ที่กรุงเทพฯ มาแล้ว ลมดึงความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาประเทศไทยมากกว่าปกติ
2. คือเรื่องฝนแช่ หมายถึงฝนตกแล้วอยู่กับที่ ปกติร่องมรสุมต้องเคลื่อน ตกที่นี่วันนึงแล้วเคลื่อนไปมาเลย์ หรือไปข้างบน แต่นี่ไม่เคลื่อนเลย แช่อยู่ที่เดิม หลายจังหวัดเป๊ะๆ เลย เรียงอยู่ตรงนั้น แช่อยู่หลายวัน ปริมาณน้ำฝนมันก็เลยเยอะ ประกอบกับลานีญามาด้วย
3. คือโลกร้อน ทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น เมื่อน้ำร้อนขึ้นมันก็ระเหยมากขึ้น นั่นข้อแรก ข้อที่สองคืออากาศ ยิ่งร้อนขึ้น 1 องศา มันจุไอน้ำเพิ่มได้ 7 เปอร์เซ็นต์ น้ำระเหยมากขึ้น เมฆที่เราเห็นปัจจุบัน มีน้ำอยู่ถ้าเทียบกับสมัยก่อน อาจมีน้ำอยู่เพิ่มขึ้น 30-40 เปอร์เซ็นต์
เอาง่ายๆ คือน้ำระเหยขึ้นไป เป็นเมฆ แล้วตกลงมาอีก เมฆจริงๆ ต้องลอยไปจุดนี้ๆ แต่เมฆนี้ไม่ลอย มันอยู่ตรงนี้ แล้วแช่ตกอยู่ตรงนี้ มันเลยทำให้สะสมปริมาณน้ำบนพื้นดิน







