เลิกซะนะ! 5 อาหารเช้ายอดฮิต เพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งไม่รู้ตัว ทำสมองเสื่อม-แก่เร็ว

เลิกซะนะ! 5 อาหารเช้ายอดฮิต เพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งไม่รู้ตัว ทำสมองเสื่อม-แก่เร็ว

จากเว็บต่างประเทศ ได้เผยว่า หากคุณกินอาหารเช้าแบบนี้เป็นเวลานาน อย่าถามว่าทำไมถึง "ลืม" อยู่เรื่อย สมองของคุณจะแก่เร็วและเป็นมะเร็งโดยที่คุณไม่รู้ตัว สมองคิดเป็นเพียงประมาณ 2% ของน้ำหนักตัว แต่ใช้พลังงานมากถึง 20% ของแคลอรี่ทั้งหมดในแต่ละวัน อาหารเช้าไม่เพียงแต่เป็นมื้อแรกเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งกลูโคสและสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

การเลือกอาหารเช้าที่ไม่เหมาะสมไม่เพียงแต่ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียชั่วคราวและมีสมาธิสั้นเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานของโรคทางระบบประสาทเสื่อม เช่น อัลไซเมอร์ หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง เพื่อปกป้องสมองจากอันตรายเหล่านี้ คุณต้องงดอาหารเช้า 5 ประเภทต่อไปนี้:

1. อาหารที่ใช้น้ำซุปข้นมันๆ

อาหารเช้าที่ใช้น้ำซุปที่เคี่ยวเป็นเวลานานและเข้มข้น มักมีปริมาณโซเดียมและไขมันอิ่มตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน การบริโภคเกลือมากเกินไปในตอนเช้าทำให้เกิดความดันโลหิตสูงและทำลายหลอดเลือดฝอย ความดันโลหิตสูงเรื้อรังเป็นสาเหตุหลักของภาวะสมองเสื่อมจากหลอดเลือด ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดขนาดเล็กในสมองได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ทำให้การไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อสมองลดลง

นอกจากนี้ ปริมาณไขมันอิ่มตัวที่สูงในน้ำซุปยังส่งเสริมภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis) ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนไปยังสมอง ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อความเสียหายของเซลล์ประสาทเพิ่มขึ้น

2. อาหารทอด

ชาวเวียดนามจำนวนมากนิยมรับประทานอาหารเช้ากับโดนัททอด แป้งทอดกรอบ และเกี๊ยวกรอบทอดในน้ำมัน อย่างไรก็ตาม อาหารทอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้น้ำมันปรุงอาหารที่ผ่านการอบหลายครั้ง จะก่อให้เกิดสาร AGEs (Advanced Glycation End Products) และอัลดีไฮด์ที่เป็นพิษในปริมาณมาก

สารประกอบเหล่านี้ส่งเสริมการอักเสบของระบบประสาทเรื้อรังและภาวะเครียดออกซิเดชันอย่างรุนแรง การอักเสบเรื้อรังเป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดโรคทางระบบประสาทเสื่อม เช่น โรคอัลไซเมอร์ ยิ่งไปกว่านั้น การเกิดออกซิเดชันของไขมันอย่างรุนแรงยังก่อให้เกิดความเสียหายโดยตรงต่อเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทและหลอดเลือดสมอง ทำให้ความสามารถในการรับรู้และการป้องกันของสมองอ่อนแอลง

3. แป้งขัดสี

อาหารเช้าที่ทำจากแป้งขัดสี เช่น เส้นหมี่หรือเฝอ ขนมปังขาว... มีดัชนีน้ำตาล (GI) สูงมาก การรับประทานอาหารที่มีค่า GI สูงในตอนเช้าจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น และตับอ่อนต้องหลั่งอินซูลินออกมาในปริมาณมาก ภาวะดื้อต่ออินซูลินเรื้อรังอันเนื่องมาจากระดับน้ำตาลในเลือดที่ผันผวนนี้ มักถูกเรียกเล่นๆ ว่า "โรคเบาหวานชนิดที่ 3 ของสมอง" ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคอัลไซเมอร์

ภาวะอินซูลินและกลูโคสเกินขนาดไม่เพียงแต่ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย "สมองล้า" เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการอักเสบ ทำลายเซลล์และหลอดเลือด และขัดขวางการส่งพลังงานไปยังเซลล์ประสาทอย่างคงที่

4. เนื้อสัตว์แปรรูป

เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก เนื้อเย็น... อร่อยและสะดวก แต่เป็นภัยคุกคามร้ายแรงเนื่องจากมีไนไตรต์ (ซึ่งใช้ในการถนอมอาหารและแต่งสี) อยู่ในระดับสูง เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ไนไตรต์สามารถเปลี่ยนเป็นไนโตรซามีน ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้เป็นสารก่อมะเร็งที่รุนแรง

การได้รับไนโตรซามีนเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของยีน (genotoxicity) ซึ่งไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับมะเร็งทางเดินอาหารเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในเนื้อเยื่อที่เปราะบาง รวมถึงเนื้อเยื่อประสาท การรับประทานสารก่อมะเร็งเหล่านี้ในมื้อเช้าจะเร่งการสะสมสารพิษ

5. เค้กสำเร็จรูปและซีเรียลสำเร็จรูปที่มีน้ำตาลสูง

เค้ก บิสกิตสำเร็จรูป หรือซีเรียลสำเร็จรูปไม่เพียงแต่มีน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์เท่านั้น แต่ยังมีไขมันทรานส์และน้ำมันพืชที่ผ่านการเติมไฮโดรเจนบางส่วน ไขมันทรานส์เป็นสารก่อการอักเสบที่มีฤทธิ์รุนแรง ส่งเสริมการสะสมของไขมันไม่ดีและทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ การได้รับไขมันทรานส์และระดับน้ำตาลที่สูงเป็นประจำจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบแบบลูกโซ่ในสมอง เร่งการเสื่อมของเซลล์ประสาทและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงในสมอง

เพื่อรักษาสมองของคุณ ให้เปลี่ยนอาหารเช้าเหล่านี้ด้วยอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ไขมันดี (เช่น โอเมก้า 3) และโปรตีนคุณภาพสูง เพื่อรักษาเสถียรภาพของหลอดเลือดและเซลล์ประสาท

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ