เตือน! ภาวะตัวเย็นเกิน ในช่วงอากาศหนาว อันตรายกว่าที่คิด

เตือน! ภาวะตัวเย็นเกิน ในช่วงอากาศหนาว อันตรายกว่าที่คิด

ภาวะตัวเย็นเกิน (Hypothermia) คือภาวะที่อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงจนต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส มักเกิดจากการอยู่ท่ามกลางความหนาวเย็นเป็นเวลานาน หรือแช่อยู่ในน้ำเย็นจัด จนทำให้ระบบต่างๆของร่างกายโดยเฉพาะหัวใจและสมองเริ่มทำงานผิดปกติ หากไม่ได้รับการช่วยเหลือทันทีอาจอันตรายถึงชีวิตได้

สาเหตุของภาวะตัวเย็นเกิน

1. สัมผัสความเย็นโดยตรง เช่น อากาศหนาวจัด หรือตกน้ำในสภาพน้ำเย็นมาก มักเกิดในคนที่อายุยังน้อยและร่างกายแข็งแรง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุบัติเหตุ

2. ความสามารถในการปรับอุณหภูมิของร่างกายบกพร่อง พบมากในผู้สูงอายุ (อายุ 65 ปีขึ้นไป) หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ อัมพาต โรคสมองเสื่อม พาร์กินสัน เบาหวานที่มีภาวะประสาทเสื่อม หรือภาวะขาดไทรอยด์ รวมถึงผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์มาก หรือใช้ยานอนหลับ/ยากล่อมประสาท เพียงเจออากาศเย็นเล็กน้อยก็อาจเกิดภาวะอันตรายได้

อาการของภาวะตัวเย็นเกิน

ระยะแรก

- สั่นอย่างควบคุมไม่ได้

- พูดไม่ชัด งุ่มง่าม เดินเซ

- ง่วง ซึม อ่อนเพลีย หงุดหงิด

- เริ่มสับสน คิดและตัดสินใจได้ช้าลง (มักไม่รู้ตัวว่ากำลังอันตราย)

ระยะรุนแรง

- ตัวไม่สั่นแล้ว (เป็นสัญญาณอันตรายมาก)

- เพ้อ ไม่รู้สึกตัว

- หมดสติ และอาจหยุดหายใจ

การปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากพบผู้ป่วยที่สงสัยว่าอยู่ในภาวะตัวเย็นเกิน ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด และให้การปฐมพยาบาลดังนี้

1. พาผู้ป่วยหลบลมและความหนาว หรือออกจากน้ำเย็น เข้าสู่ที่อบอุ่นทันที

2. ถ้าเสื้อผ้าเปียก ควรถอดออกและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าแห้ง

3. ให้ความอบอุ่นด้วยผ้านวม ผ้าห่ม เสื้อผ้าหนาๆ หรือใช้การแนบกายเพื่อถ่ายเทความร้อน โดยเฉพาะกลางแจ้งควรคลุมศีรษะและหน้า

4. จัดให้นอนนิ่งๆ หงายบนพื้นหรือผ้าหนาๆ ห้ามนวดหรือเขย่าตัวแรง เพราะอาจกระตุ้นให้หัวใจหยุดเต้น

5. ถ้ายังรู้สึกตัว ให้จิบน้ำอุ่นหรือเครื่องดื่มอุ่น (ห้ามดื่มแอลกอฮอล์)

6. หากหยุดหายใจ ต้องเป่าปากช่วยหายใจ แต่ถ้ายังมีลมหายใจแม้อ่อนมาก ควรหลีกเลี่ยงการทำ CPR โดยไม่จำเป็น

เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะตัวเย็นเกิน ผู้ป่วยจะต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน โดยแพทย์อาจใช้วิธีต่างๆ เช่น:

-ห่มผ้าห่มไฟฟ้า ประคบน้ำอุ่น

-แช่น้ำอุ่นอย่างระมัดระวัง

-ให้อากาศอุ่นหรือสารน้ำอุ่นเข้าทางเส้นเลือด

-สวนน้ำอุ่นเข้าทางกระเพาะอาหาร ทวารหนัก กระเพาะปัสสาวะ ช่องท้อง หรือโพรงเยื่อหุ้มปอด

-ทำ CPR ใส่ท่อช่วยหายใจ หากหยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้น

แพทย์จะตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด ปัสสาวะ เอกซเรย์ปอด และคลื่นหัวใจ เพื่อตรวจหาภาวะแทรกซ้อน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ