วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 รายงานว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้เผยแพร่ข้อมูลเตือนกำลังพลและประชาชนเกี่ยวกับทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 หลังตรวจพบรูปแบบการวางทุ่นระเบิดแบบใหม่ในพื้นที่ชายแดนไทย

จากหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบในหลายจุด พบพัสดุที่ใช้บรรจุทุ่นระเบิด PMN-2 ก่อนนำไปวาง ซึ่งบ่งชี้ว่าจุดเกิดเหตุมักมีทุ่นระเบิดประมาณ 6 ลูก และส่วนใหญ่เป็นทุ่นระเบิดใหม่ โดยการวางทุ่นของฝ่ายกัมพูชามักจัดเป็นกลุ่ม 3-6 ลูก

กองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า วิธีการวางทุ่นระเบิดมีพัฒนาการและเล่ห์เหลี่ยมมากขึ้น โดยมักวางแบบดักซ้าย-ขวา-หน้า-หลัง ในลักษณะสลับฟันปลา ตามเส้นทางที่คาดว่ากำลังพลไทยใช้ลาดตระเวน หรือจัดวางลวงให้เดินเข้าสู่พื้นที่สังหาร (Killing Zone)

-ใช้วิธีตะโกนยั่วยุหรือชักนำให้ฝ่ายไทยเดินเข้าไปในจุดเสี่ยงแล้วเหยียบทุ่น

-ตัดลวดหีบเพลงเพื่อบีบให้ทหารไทยต้องเข้าไปซ่อมแซม ก่อนพาให้เหยียบทุ่นที่ซ่อนอยู่

-วางทุ่นก่อนถอนกำลังในพื้นที่ที่ฝ่ายไทยเข้ายึดครองได้

-เดินลาดตระเวนล้ำเข้ามาในเขตไทย และเมื่อถูกผลักดันออกไปแล้ว ก็กลับมาลอบวางทุ่นในเวลากลางคืน เพื่อให้ฝ่ายไทยซ้ำต้องเข้าตรวจสอบพื้นที่ในวันต่อมา

ทั้งหมดนี้เป็นพฤติกรรมที่กองทัพภาคที่ 2 ระบุว่าเป็นการกระทำที่มุ่งหวังต่อชีวิตทหารไทยอย่างโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และขัดต่อหลักสากลตามอนุสัญญาออตาวา ซึ่งมีข้อห้ามการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล