บัวแก้วไม่ให้ค่ากัมพูชา ชี้ปล่อยเฟคนิวส์-เจตนามุ่งร้าย

บัวแก้วไม่ให้ค่ากัมพูชา ชี้ปล่อยเฟคนิวส์-เจตนามุ่งร้าย

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568  นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสรุปเป็น 3 ประเด็นสำคัญ ดังนี้

1. ผลการลงพื้นที่ตรวจสอบของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT)

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ได้ลงพื้นที่ช่องอานม้าและพื้นที่สัตตะสม เพื่อตรวจสอบเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด และพบว่ามี ทุ่นระเบิดใหม่ถูกวางเพิ่มเติม ในพื้นที่ดังกล่าว

วันเดียวกัน AOT ยังตรวจสอบจุดเสาธงไชย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ พบ ทุ่นระเบิดใหม่ที่ถูกหยอดกาว เพื่อขัดขวางการถอดสลัก ซึ่งสะท้อนพฤติกรรมเป็นปฏิปักษ์ของฝ่ายกัมพูชาอย่างชัดเจน

ต่อมา วันที่ 18 พฤศจิกายน คณะ AOT ลงพื้นที่ปราสาทคนา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์การละเมิดข้อตกลงแถลงการณ์ร่วมและการวางทุ่นระเบิดเพิ่มเติมของฝ่ายกัมพูชา

2. ไทยประณามกัมพูชาเผยแพร่ข่าวปลอมและข้อมูลบิดเบือน

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า นอกจากเหตุการณ์ข้อมูลเท็จที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ฝ่ายกัมพูชายังคงเผยแพร่ข่าวปลอมเพื่อโจมตีประเทศไทย โดยยกตัวอย่าง 2 กรณี คือ

กล่าวหาทหารไทยเตรียมโจมตีพื้นที่ จ.โพธิ์สัตว์ ซึ่งกองทัพเรือยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่มีเหตุปะทะเกิดขึ้น

กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ไทยทำร้ายและล่วงละเมิดสตรีกัมพูชาที่หลบหนีเข้าเมือง ที่จังหวัดจันทบุรี ซึ่งทุกหน่วยงานตรวจสอบแล้วไม่พบเหตุการณ์ตามกล่าวอ้าง

นายนิกรเดชย้ำว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ไทยเป็นไปตามกฎหมาย มีสักขีพยานกำกับดูแลตลอดขั้นตอน ไทยจึง ไม่ให้ความสำคัญต่อข้อกล่าวหาที่ไร้มูลและมีเจตนาร้าย พร้อมขอความร่วมมือประชาชนและสื่อมวลชนตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข่าวทางการ เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อสงครามข่าวสาร

3. ไทยย้ำจุดยืนเจรจาการค้ากับสหรัฐ แยกจากปัญหาความมั่นคงชายแดน

นายนิกรเดชกล่าวถึงความร่วมมือกับสหรัฐ ภายหลังการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน โดยไทยได้ส่งหนังสือเพิ่มเติมถึงผู้นำสหรัฐในวันที่ 18 พฤศจิกายน เพื่อย้ำถึง

-การละเมิดแถลงการณ์ร่วมของกัมพูชา

-ความจำเป็นที่ไทยต้องดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดโดยไม่ถูกขัดขวาง

-ความหวังให้สหรัฐสนับสนุนหรือกดดันกัมพูชาให้กลับสู่แนวทางสันติภาพ

โฆษกระบุว่า ไทยเห็นว่า ประเด็นความมั่นคงชายแดนกับประเด็นการค้าไทย–สหรัฐเป็นคนละเรื่อง ไม่ควรนำมาเชื่อมโยงกัน อย่างไรก็ดี หากสหรัฐต้องการมีบทบาท ไทยต้องการให้สหรัฐใช้บทบาทนั้นเพื่อกดดันกัมพูชาให้เคารพข้อตกลงร่วม

ส่วนความคืบหน้าการเจรจาการค้าภาษีทรัมป์กับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) นายนิกรเดชยืนยันว่า การหารือของผู้นำมีน้ำหนักสำคัญที่สุด และไทยยังรอการตอบกลับจากสหรัฐอย่างเป็นทางการ รวมถึงการจัดรอบการเจรจาครั้งต่อไปตามขั้นตอนปกติ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ