ณัฐพล ลั่น ปักหมุดบ้านหนองจานเสร็จ เขมรต้องออกจากพื้นที่
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 10/2568 โดยมี พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าร่วม
ภายหลังการประชุม พล.อ.ณัฐพล แถลงถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งอยู่ในช่วงระงับการปฏิบัติตามข้อตกลงปฏิญญา โดยภารกิจสำคัญของเหล่าทัพมี 2 ส่วน ได้แก่ การเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนในเขตอธิปไตยของไทย และ การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะบริเวณบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว
การดำเนินงานแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน
-เก็บกู้ทุ่นระเบิด เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน
-ปักหมุดชั่วคราว เริ่มวันที่ 19 พฤศจิกายน โดยจะปักหมุดตามแนวเส้นสีแดง ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน คาดเสร็จกลางเดือนธันวาคม
-เจรจาปรับการถือครองพื้นที่ หลังปักหมุดเสร็จ จะหารือวิธีการอพยพชาวกัมพูชากว่า 200 ครอบครัวที่อยู่ใต้แนวเส้นสีแดงออกจากพื้นที่ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) รับผิดชอบ
พล.อ.ณัฐพลระบุว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานเชิญคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ร่วมตรวจสอบทุกขั้นตอน เพื่อป้องกันการถูกกัมพูชาบิดเบือนสถานการณ์ พร้อมเดินหน้าดูแลความปลอดภัยแนวชายแดน ภายใต้โครงการ น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี มีอินเทอร์เน็ต ที่กำลังเริ่มดำเนินการในกำลังพล 8 หน่วย โดยเน้นพื้นที่ด้านตะวันออกก่อน
นอกจากนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้จัดตั้ง คณะกรรมการนโยบายความมั่นคงชายแดน ทำหน้าที่กลั่นกรองประเด็นความมั่นคงในวงเล็ก ก่อนนำเสนอเข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โครงสร้างมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และรัฐมนตรี-ผู้บัญชาการระดับสูงร่วมเป็นกรรมการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการยกร่างคำสั่ง
เมื่อถูกถามถึงจุดยืนก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าจะไม่ประชุม GBC หากกัมพูชาไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง พล.อ.ณัฐพลชี้แจงว่า การประชุม GBC ตามปกติจะจัดปีละครั้ง ส่วนครั้งที่ผ่านมาเป็นการประชุมวิสามัญ แม้เคยประกาศว่าจะไม่เจรจาต่อ แต่เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติให้ GBC รับผิดชอบ ก็ต้องปฏิบัติตาม ไม่ถือว่าขัดแย้งกับคำพูดเดิม
สำหรับการประชุม GBC ครั้งต่อไป จะหารือเฉพาะกรณีพื้นที่บ้านหนองจาน หลังการปักหมุดเสร็จสิ้น โดยจะกำหนดแนวทางการอพยพประชาชนอีกครั้ง
ในประเด็นการเสริมกำลังของกัมพูชา พล.อ.ณัฐพลระบุว่า หากมีกำลังพลกัมพูชาล้ำแนวปฏิบัติการไทย ให้ใช้กฎการใช้กำลังตามลำดับขั้น คือ เตือนด้วยวาจา ยิงเตือน ยิงตรง หากยังฝ่าฝืน
ส่วนกรณีที่กัมพูชานำอดีตเชลยศึกไทยกลับเข้าร่วมสู้รบ พล.อ.ณัฐพลเผยว่า ได้ประสานให้กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ประณาม เนื่องจากกระทำผิดอนุสัญญาเจนีวาและสัญญาออตตาวา แม้ไทยไม่สามารถดำเนินการอย่างเด็ดขาดได้ แต่การประณามจะทำให้กัมพูชาถูกตั้งคำถามจากนานาชาติ พร้อมยืนยันว่าเชลยศึกที่เหลือยังไม่ถูกปล่อยตัว เพราะกัมพูชายังไม่ยุติสถานะความเป็นปรปักษ์






