บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงยังคงปกคลุมจีนตอนกลาง และคาดว่าจะขยายตัวลงมาปกคลุมจีนตอนใต้และเวียดนามตอนบนในวันนี้ ก่อนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันพรุ่งนี้ (18 พฤศจิกายน 2568) ส่งผลให้ตอนบนของประเทศมีลักษณะอากาศแปรปรวน เกิดฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะแรก ประชาชนควรระวังสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ขณะที่คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และสูงมากกว่า 2 เมตรบริเวณที่เกิดฝนฟ้าคะนอง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน จึงขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีฝนฟ้าคะนอง

ภาคเหนือ

อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ พร้อมลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยเฉพาะจังหวัดน่าน พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-15 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศเย็นในตอนเช้า มีลมแรง และมีฝนร้อยละ 40 ของพื้นที่

ส่วนมากในจังหวัดสกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส

ยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคกลาง

อากาศเย็นในตอนเช้าพร้อมลมแรง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางจุด

ส่วนใหญ่ในจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา

อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่

ส่วนมากในจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทะเลคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และห่างฝั่งคลื่นสูงราว 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่

พบมากในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทะเลคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และมากกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่

มากในจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล

อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ พร้อมมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง