เปิดมติ กมธ.สภา ตัดทิ้ง สสร. ตั้งกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญแทน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ที่รัฐสภา นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม แถลงผลการประชุมของ กมธ. ว่า ที่ประชุมได้มีมติในหลักการให้ตั้ง คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นองค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพียงองค์กรเดียว มีจำนวน 35 คน และจัดตั้ง คณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน จำนวน 35 คน แทน สภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยถือเป็นข้อยุติในหลักการสำคัญของคณะกรรมาธิการแล้ว ส่วนรายละเอียดเรื่องที่มาของกรรมาธิการและคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็น จะมีการหารือเพิ่มเติมต่อไป
นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่าที่ประชุมเห็นพ้องกันว่า การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ควรมีการมีส่วนร่วมจากประชาชนมากที่สุด แม้จะไม่มีการเลือกตั้ง สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) โดยตรง แต่จะออกแบบกระบวนการ กลางน้ำ ให้ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วม แสดงความคิดเห็น และมีบทบาทอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อชดเชยการไม่มีคูหาเลือกตั้งในขั้นต้น
ทั้งนี้ กมธ. จะหารือในรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มา บทบาท และคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาเป็นกรรมาธิการและคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็น โดยจะให้รัฐสภาเป็นผู้คัดเลือก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการครอบงำจากฝ่ายการเมือง พร้อมเตรียมวางกลไกเพื่อป้องกันการใช้เสียงข้างมากลากไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
ด้าน น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน ในฐานะโฆษก กมธ.ฯ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้เปลี่ยนจาก สภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ มาเป็น คณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นฯ เนื่องจากที่ประชุมเห็นว่าหากที่มามาจากการเลือกตั้ง อาจขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และอาจทำให้กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญล่าช้า โดยข้อเสนอนี้ได้รับแรงสนับสนุนจาก นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ทั้งนี้ ที่มาของคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นทั้ง 35 คน จะมาจากการเลือกโดยรัฐสภา
ถามถึงความกังวลว่าข้อสรุปของ กมธ. อาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ในชั้นรัฐสภา เนื่องจาก สสร. เคยเป็นกลไกสำคัญในการร่างรัฐธรรมนูญ น.ส.พนิดา ตอบว่า กมธ. มีเหตุผลเพียงพอในการชี้แจง และจะออกแบบกลไกให้รัดกุมเพื่อป้องกันการผูกขาดโดยเสียงข้างมากในรัฐสภา
ด้าน นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ ส.ว. และโฆษก กมธ.ฯ กล่าวว่า กมธ. จะเร่งจัดทำเนื้อหาทั้งหมดให้เสร็จภายในวันที่ 14 พฤศจิกายน และจะเชิญผู้เสนอคำแปรญัตติเข้าชี้แจงในวันที่ 18-19 พฤศจิกายน ก่อนกำหนดวันประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งคาดว่าจะเป็นการประชุมสมัยวิสามัญ
รายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการลงมติของ กมธ. ต่อแนวทางการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ พบว่า
มติ 22 ต่อ 8 เสียง เห็นชอบให้มีเพียง คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพียงองค์กรเดียว
ส่วนมติให้ตัด สภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ และตั้ง คณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน แทน ออกมาเป็น 22 ต่อ 9 เสียง
เสียงข้างมากมาจาก กมธ. ฝั่งพรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย และสมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่ ขณะที่เสียงข้างน้อยเป็น กมธ. จากพรรคเพื่อไทยและแนวร่วม






