วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมาธิการว่า ขณะนี้ได้มีการประชุมไปแล้ว 8 ครั้ง แต่การประชุมเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ไม่สามารถลงมติได้เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้ง กมธ. บางคนติดภารกิจในพื้นที่ และบางส่วนอาจยังมีความกังวลเกี่ยวกับการตีความคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ จะเป็นวันสำคัญที่ กมธ.จะพิจารณาและตัดสินใจเลือกรูปแบบของกลไกในการยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่าจะใช้รูปแบบใด หากสามารถผ่านประเด็นนี้ได้ การดำเนินงานของคณะกรรมาธิการจะเป็นไปตามกรอบเดิมที่วางไว้ แม้อาจต้องขยับกรอบเวลาการพิจารณาออกไปเล็กน้อย แต่ยืนยันว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้แน่นอน

เมื่อถูกถามถึงความเห็นของสมาชิกวุฒิสภาบางส่วนที่ยังมีความกังวลเรื่องที่มาของ ส.ส.ร. (สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ) นายณัฐวุฒิระบุว่า ประเด็นดังกล่าวได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันอย่างรอบด้านแล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอจากพรรคใดก็ตาม ทั้งหมดจะต้องเข้าสู่การพิจารณาและหาข้อสรุปร่วมกันของ กมธ. โดยได้มีการตรวจสอบและพิจารณาในทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการขัดต่อคำวินิจฉัยหรือการถูกร้องในภายหลัง พร้อมย้ำว่าคณะกรรมาธิการมีเจตนาชัดเจนที่จะ ปิดช่องโหว่ ในทุกประเด็นที่อาจก่อให้เกิดปัญหา

ส่วนคำถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่า การประชุมวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้จะไม่ล่มอีก นายณัฐวุฒิกล่าวอย่างหนักแน่นว่า มั่นใจ เพราะได้มีการนัดหมายล่วงหน้าและพูดคุยทำความเข้าใจกันนอกรอบมากขึ้นแล้ว เชื่อว่าจะไม่มีปัจจัยใดที่ทำให้การพิจารณาไม่เกิดขึ้น พร้อมย้ำว่า กมธ.ทุกคนมีเจตนารมณ์ร่วมกันในการ “ปลดล็อก” เพื่อเปิดทางให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้จริง แม้บางคนอาจไม่สามารถมาประชุมได้ครบ แต่มั่นใจว่าองค์ประชุมจะเพียงพอและสามารถลงมติได้แน่นอน

สำหรับการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ นายณัฐวุฒิระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจของรัฐบาลและรัฐสภา ไม่ใช่ของคณะกรรมาธิการ อย่างไรก็ตาม กมธ.จะเร่งทำงานให้เสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อให้การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง หากมีการเรียกประชุมวิสามัญ คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนหรือต้นเดือนธันวาคม

เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดโดยไม่มีความขัดแย้งจนทำให้งานสะดุด และจะไม่ให้ประเด็นทางการเมืองอื่น เช่น การยุบสภา หรือการใช้รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องต่อรอง เข้ามาเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของ กมธ. ชุดนี้ นายณัฐวุฒิ กล่าวย้ำ