วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ คนละครึ่งพลัส ของกระทรวงพาณิชย์ ตามคำสั่งของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ว่า พบว่าบางร้านฝ่าฝืนวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ทำการตักเตือนและดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย พร้อมอธิบายข้อกำหนดเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด

จากข้อมูลของกระทรวงการคลัง ระบุว่าจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2568 มีร้านค้าที่ถูกระงับสิทธิจากโครงการจำนวน 55 ราย เนื่องจากมีพฤติกรรมรับแลกเงินหรือสแกนรับเงินนอกจุดขายอย่างผิดปกติ กระทรวงการคลังจะดำเนินการเอาผิดกับร้านค้าที่ทุจริตอย่างเข้มงวด รวมทั้งเรียกเงินคืนเต็มจำนวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับยอดใช้จ่ายในโครงการ คนละครึ่งพลัส ณ เวลา 23.00 น. วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 อยู่ที่รวม 15,742.05 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินประชาชนใช้จ่าย 7,968.09 ล้านบาท และเงินรัฐบาลร่วมจ่าย 7,773.96 ล้านบาท โดยมีร้านค้าที่ผ่านการตรวจสอบแล้วรวม 845,192 ราย

นายสิริพงศ์ ยังได้แจ้งช่องทางการแจ้งเบาะแสพฤติกรรมทุจริต ดังนี้

-ส่งข้อมูลทางอีเมลหรือไปรษณีย์ พร้อมชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน ข้อมูลติดต่อ และหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ไปยัง [email protected]

หรือส่งไปรษณีย์ลงทะเบียนถึง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ 10400

-ธนาคารกรุงไทย โทร 02-111-1111 แจ้งอายัดร้านถุงเงิน 24 ชั่วโมง

-ตำรวจไซเบอร์ โทร 1441 หรือแจ้งความออนไลน์ที่ thaipoliceonline.com

-ศูนย์บริการภาครัฐ โทร 1111 หรือยื่นเรื่องออนไลน์ที่ 1111.go.th

-สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค โทร 1166 หากพบการคิดค่าธรรมเนียมหรือเรียกเปอร์เซ็นต์

-สายด่วนตำรวจ โทร 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

-กรมการค้าภายใน โทร 1569 ส่งข้อมูลพร้อมหลักฐาน ระบุสถานที่และพฤติกรรมการจำหน่ายสินค้าที่ผิดกฎหมาย