เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยชูป้ายแสดงจุดยืนเกี่ยวกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553 ว่า ไม่ได้ถือเป็นเรื่องใหญ่ หากเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพภายใต้กรอบกฎหมาย เพราะตนเชื่อว่าทุกคนสามารถเห็นต่าง วิพากษ์วิจารณ์ หรือซักถามได้ ตนเองก็พร้อมอธิบายข้อเท็จจริงและเหตุผลอย่างเปิดเผย

ผมมองว่า ถ้าอยู่ในขอบเขตของสิทธิเสรีภาพ ไม่เป็นปัญหาอะไรเลย นายอภิสิทธิ์กล่าว

ถามถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า เหตุการณ์ปี 53 ศาลยังไม่เคยมีคำตัดสิน นายอภิสิทธิ์ตอบว่า หากย้อนกลับไปฟังคำพูดของตนอย่างละเอียด และตรวจสอบข้อมูลที่เผยแพร่ต่อสาธารณะก็จะเห็นความชัดเจนอยู่แล้ว

ส่วนที่มีข้อสงสัยว่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นการ ดิสเครดิต ทางการเมืองนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ต้องมองแบบนั้น ผมถือว่าถ้ามีคนมาถาม ก็อธิบายไปได้ เพราะผมพูดเสมอว่านักการเมืองต้องถูกตรวจสอบได้ และต้องเคารพสิทธิของผู้อื่นด้วย

เมื่อถูกถามถึงเสียงวิจารณ์จากบางนักวิชาการที่มองว่าเขาไม่ควรกลับมาทำงานการเมืองอีก นายอภสิทธิ์กล่าวสั้น ๆ ว่า ก็เป็นสิทธิของเขาที่จะเห็นต่าง พร้อมย้ำว่าทิศทางของพรรคประชาธิปัตย์ยังคงชัดเจนในเรื่องการเมืองที่สุจริตและมีความรับผิดชอบ ซึ่งตนและคณะกรรมการบริหารพรรคตั้งใจจะสานต่อแนวทางนี้

สำหรับความกังวลว่าอาจถูกผู้ชุมนุมหรือกลุ่มการเมืองบางส่วนเข้ามาป่วนระหว่างลงพื้นที่หาเสียง นายอภิสิทธิ์ระบุว่า หากเป็นการแสดงออกโดยสุจริตก็ไม่มีปัญหา เพียงแต่ทุกฝ่ายควรเคารพหน้าที่ของกันและกัน

ภาพเก่าหรือคำถามเดิม ๆ กลับมาอีกก็ไม่เป็นไร เพราะผมยืนยันเสมอว่า สิ่งที่เคยทำหรือเคยพูดไว้ ผมพร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามถึงการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ นายอภิสิทธิ์เผยว่า จากนี้ถึงวันเลือกตั้งจะมีเวทีให้สื่อสารและอธิบายแนวคิดทางการเมืองอีกหลายครั้ง โดยตั้งใจให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการพูดถึง อนาคตของประเทศ มากกว่าการยึดติดกับความขัดแย้งในอดีต

ทุกวันนี้การเมืองเราพูดถึงแต่นโยบายเฉพาะหน้า ทั้งที่ประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ผมกับพรรคประชาธิปัตย์อยากเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสิ่งนั้น เขากล่าว

ส่วนกระแสวิจารณ์ที่อาจทำให้หลุดโฟกัสจากการเสนอนโยบาย นายอภิสิทธิ์ย้ำว่า สมาธิผมดีครับ ผมรู้ว่าอะไรคือหน้าที่ และจะไม่หนีจากสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเราต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เคยทำมา