วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.กู้เกียรติ วงษ์พันธ์ ผกก.2 บก.สอท.5 และผู้บริหารจากสำนักงาน กสทช. รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 9 ลงพื้นที่เปิดปฏิบัติการ ล้มเสาสัญญาณชายแดนไทย-มาเลเซีย ตรวจสอบสถานีสัญญาณโทรศัพท์ 3 จุดในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ได้แก่ อำเภอสุไหงโกลก อำเภอแว้ง และอำเภอตากใบ

ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการหลอกลวงทางโทรศัพท์ข้ามแดน ซึ่งมิจฉาชีพมักอาศัยช่องสัญญาณโทรคมนาคมจากประเทศเพื่อนบ้านในการก่อเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ตรวจเข้มแนวชายแดน พร้อมเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปิดช่องว่างทางสื่อสารและตัดโอกาสไม่ให้คนร้ายใช้ระบบ Sim Box โทรหลอกเหยื่อในฝั่งไทย

จากการตรวจสอบพบว่า เสาสัญญาณทั้ง 3 แห่งมีบางส่วนหันทิศทางและส่งสัญญาณแรงล้ำเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะเสาที่ตั้งอยู่บริเวณถนนเจริญเขต ซอย 5 ต.สุไหงโกลก เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งให้ผู้ให้บริการเครือข่ายเร่งปรับมุมเอียงของสายอากาศ ลดกำลังส่ง และจำกัดรัศมีให้บริการไม่เกิน 200 เมตรจากจุดติดตั้ง เพื่อป้องกันการล้ำข้ามพรมแดน

ในพื้นที่ ต.บูเก๊ะตา อ.แว้ง และบ้านตาบา ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ เจ้าหน้าที่พบปัญหาลักษณะเดียวกัน และได้กำชับให้ดำเนินการปรับปรุงอย่างเร่งด่วน พร้อมบังคับใช้มาตรการของสำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับการตั้งสถานีสื่อสารในพื้นที่ชายแดนอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ กสทช. ได้สั่งการให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมทุกค่ายต้องดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน หากฝ่าฝืนหรือเพิกเฉย จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อยับยั้งการนำโครงข่ายโทรคมนาคมไปใช้ในกิจกรรมหลอกลวงและอาชญากรรมข้ามแดนต่อไป