นายกฯ ยัน ยึดไทม์ไลน์เดิม ยุบสภาฯ 31 ม.ค. 69 เว้นยื่นซักฟอก อาจเร็วขึ้น

นายกฯ ยัน ยึดไทม์ไลน์เดิม ยุบสภาฯ 31 ม.ค. 69 เว้นยื่นซักฟอก อาจเร็วขึ้น

เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ที่พารากอน ฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ Thailand’s Next Frontier: A National Economic Vision ว่าด้วยทิศทางเศรษฐกิจไทยในโลกใหม่ พร้อมระบุถึงแนวทางขับเคลื่อนประเทศสู่พรมแดนใหม่แห่งโอกาส การเติบโต และความยั่งยืน

นายอนุทินกล่าวว่า ตลอดหนึ่งเดือนที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตนได้พยายามดำเนินงานตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งกรอบเวลาการบริหารประเทศเพียง 4 เดือนของอำนาจเต็ม และใช้เวลานี้ทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งการประชุมกับทีมงาน การวางยุทธศาสตร์ และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นหัวใจสำคัญของรัฐบาล รวมถึงปัญหาความมั่นคงกับประเทศเพื่อนบ้าน การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ และการรับมือภัยธรรมชาติ ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่รัฐบาลตั้งเป้าจะทำให้เห็นผลภายในเวลาจำกัดนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า การยุบสภาจะเกิดขึ้นตามกำหนดเดิม วันที่ 31 มกราคม 2569 ตามข้อตกลง (MOA) ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของการร่วมจัดตั้งรัฐบาล พรรคประชาชนทำให้ผมได้เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นผมต้องรักษาสัญญา เมื่อครบ 4 เดือนก็ต้องยุบสภา ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นก็ตาม นายอนุทินกล่าว

เมื่อถูกถามถึงกระแสข่าวความเป็นไปได้ของการยุบสภาก่อนกำหนด หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุทินตอบว่า ต้องพิจารณาตามสถานการณ์ในแต่ละช่วง หากการอภิปรายเป็นเพียงเกมทางการเมืองเพื่อล้างแค้นหรือต้องการโจมตีรัฐบาลโดยไม่มีสาระสำคัญ ก็อาจไม่จำเป็นต้องรอให้ถูกอภิปราย เพราะตั้งใจจะยุบสภาอยู่แล้วในปลายเดือนมกราคม จะให้ผมยืนให้ใครด่าฟรี ๆ ทำไม ถ้าสู้ไม่ได้ทางการเมืองก็ยุบสภา ห่างกันแค่เดือนเดียว ไม่ต่างอะไรกันมาก นายกฯ กล่าว

นายอนุทินยังกล่าวถึงคณะรัฐมนตรีว่า ทุกคนที่มาร่วมงานต่างมีความเสียสละ เพราะหากอยู่ในตำแหน่งเดิมคงมีความมั่นคงกว่า แต่ทุกคนยอมเข้ามาเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้การเมืองไทย ถ้าเราทำงานด้วยเจตนาดี เอาประโยชน์ส่วนรวมมาก่อน ประเทศไทยจะกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับความพร้อมในการเลือกตั้ง นายอนุทินยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยเตรียมพร้อมมาโดยตลอด ตั้งแต่วันแรกที่เข้าสภา ผมบอกสมาชิกพรรคไว้แล้วว่าเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ทุกวัน ถ้าพรุ่งนี้เลือกตั้งก็พร้อมลงสนามทันที

ส่วนคำถามว่าจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ก็ต้องพร้อม เพราะวันนี้ก็เป็นอยู่แล้ว พร้อมระบุว่า การได้ทำงานเพื่อประเทศถือเป็นเกียรติสูงสุด ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งนานหรือไม่นานก็ไม่สำคัญ ผมอยากทำให้เกิดสิ่งที่เป็นภาพจำของรัฐบาลนี้ให้ได้สักเรื่องหนึ่ง เพื่อให้บอกตัวเองได้ว่า ขณะที่ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ผมได้ทำสิ่งดี ๆ ให้กับบ้านเมืองแล้ว นายอนุทินกล่าวทิ้งท้าย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ