จุลพันธ์ โวนโยบาย พท. ล้ำหน้าพรรคอื่น ย้ำไม่ใช่ช่วงขาลง
เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองและการเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งครั้งหน้า โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทยกำลังเดินหน้าวางยุทธศาสตร์และนโยบายใหม่อย่างเข้มข้น ซึ่งขณะนี้คณะทำงานที่นำโดย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ได้จัดทำร่างนโยบายหลักที่มุ่งเน้นให้ประชาชนเข้าใจง่ายและจับต้องได้ ภายใต้แนวคิด Back to Basic หรือ กลับสู่พื้นฐานของชีวิตประชาชน
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า พรรคเตรียมจัดเวิร์กช็อป 2 ระดับ คือ ระดับ ส.ส. เพื่อระดมแนวคิดในการขับเคลื่อนนโยบาย และระดับพื้นที่ เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นจากเกษตรกร ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมถึงประชาชนกลุ่มต่าง ๆ เพื่อให้แนวนโยบายของพรรคตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
สำหรับแคมเปญหาเสียงเบื้องต้น นายจุลพันธ์เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยจะใช้นโยบายภายใต้แนวคิด สร้างโอกาส ล้างหนี้ มีกิน ซึ่งยังคงเน้นเรื่อง ปากท้องและคุณภาพชีวิตของประชาชน เป็นหัวใจหลัก พร้อมระบุว่าแนวทางของพรรคอื่น เช่น พรรคประชาชน (ปชน.) ที่เปิดแคมเปญ มีเรา ไม่มีเทา ก็ถือเป็นแนวทางของแต่ละพรรค
หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวต่อว่า พรรคได้เคยเตือนตั้งแต่ต้นให้รอบคอบในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะรู้ดีถึงองค์ประกอบของพรรคร่วมและทิศทางทางการเมือง เราไม่ได้ปิดบังอะไร และก็เคยเตือนแล้วว่าควรพิจารณาให้รอบคอบ ดังนั้นหากตอนนี้มีใครกังวลเรื่องความ สีเทา ก็คงต้องย้อนกลับไปดูว่าตั้งรัฐบาลกันมาอย่างไร นายจุลพันธ์กล่าว พร้อมยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยยังคงทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างจริงจัง และเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในโอกาสอันเหมาะสม
เมื่อถามถึงผลโพลที่ระบุว่าพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยมีคะแนนนำ นายจุลพันธ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเพิ่งผ่านการปรับโครงสร้างใหม่ และยอมรับว่ายังไม่ใช่ช่วงพีกของพรรค เรามีคะแนนนิยมประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ยังมีประชาชนกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ที่ยังไม่ตัดสินใจ เรามั่นใจว่าเมื่อถึงเวลา พรรคเพื่อไทยจะกลับมาครองใจประชาชนได้อีกครั้ง เพราะเราเป็นพรรคที่มีผลงานเชิงนโยบายชัดเจน และพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำได้จริง
ส่วนกรณีจะนำนโยบายจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร มาปัดฝุ่นใช้ใหม่หรือไม่นั้น นายจุลพันธ์ตอบว่า มีความเป็นไปได้ แต่ขอเวลาหารือภายในพรรคก่อน ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน
สำหรับทิศทางของพรรคในระยะต่อไป นายจุลพันธ์ระบุว่า พรรคเพื่อไทยจะปรับการสื่อสารให้เชิงรุกมากขึ้น หลังยอมรับว่าที่ผ่านมา ตั้งรับมากเกินไป พร้อมพัฒนาโครงสร้างผู้สมัครให้เข้าถึงประชาชนในแต่ละพื้นที่ และเพิ่มความเข้มข้นในการทำงานสภา
เราจะสร้างนโยบายที่เป็นความหวังของสังคมอีกครั้ง และเตรียมเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน ซึ่งทั้งสามคนจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากประชาชน และเชื่อมั่นว่าจะนำพาพรรคเพื่อไทยกลับมาชนะใจคนไทยได้อีกครั้ง นายจุลพันธ์กล่าวทิ้งท้าย






