เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ภญ.มณฑกา ธีรชัยสกุล ผู้ช่วยอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ประกาศใช้โครงการ คนละครึ่งพลัส ในปี 2568 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน

โดยกรมการแพทย์แผนไทยฯ เห็นถึงศักยภาพของธุรกิจ นวดและสปา ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของเศรษฐกิจสุขภาพไทย จึงขอเชิญผู้ประกอบการทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพของประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคง

ภญ.มณฑกา กล่าวว่า กรมฯ ได้กำหนดแนวทางพัฒนา นวดไทย ให้ก้าวสู่ระดับสากล ผ่านการยกระดับมาตรฐานบริการ การพัฒนาทักษะบุคลากร และการสร้างภาพลักษณ์ นวดไทย ให้เป็น Soft Power ที่สะท้อนเอกลักษณ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย

สอดคล้องกับยุทธศาสตร์รัฐบาลในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น Medical & Wellness Hub แห่งเอเชีย

นอกจากนี้ กรมการแพทย์แผนไทยฯ ยังเตรียมผลักดันให้การนวดไทยเป็นบริการหลักใน ศูนย์สุขภาพครบวงจร (Wellness Center) ทั่วประเทศ และส่งเสริม การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อสร้างรายได้และกระจายประโยชน์สู่เศรษฐกิจท้องถิ่น

สำหรับสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ คนละครึ่งพลัส จะต้องมี ใบอนุญาตประกอบกิจการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น ใบอนุญาตนวดเพื่อสุขภาพหรือสปาเพื่อสุขภาพ และต้องผ่านการประเมินมาตรฐานสถานประกอบการเวลเนส

จากกรมการแพทย์แผนไทยฯ ครอบคลุมทั้งด้านบุคลากร ความสะอาด ความปลอดภัย และคุณภาพการบริการตามมาตรฐานวิชาชีพ

ภญ.มณฑกา ย้ำว่า โครงการ คนละครึ่งพลัส ไม่เพียงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการนวดและสปา

ซึ่งถือเป็นหัวใจของอัตลักษณ์ความเป็นไทย นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพของประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคง

ควบคู่กับการอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทย มุ่งสู่การเป็น ศูนย์กลางเวลเนสแห่งเอเชีย อย่างยั่งยืนในอนาคต