ผักอายุวัฒนะ ที่คนไทยคุ้นเคย สรรพคุณดั่งทอง ทั่วโลกยกย่อง
ผักเบี้ยใหญ่จัดเป็นพืชอวบน้ำ (succulent) โดยในภาษาจีนเรียกผักชนิดนี้ว่า ผักแห่งความยืนยาว หรือ ผักอายุวัฒนะ เหมาะสำหรับปลูกในภูมิอากาศที่พืชชนิดอื่นอาจไม่รอดชีวิต และยังดูแลง่าย เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลารดน้ำต้นไม้เป็นประจำ
ประโยชน์ของผักเบี้ยใหญ่ (Purslane Benefits)
ผักเบี้ยใหญ่ได้รับการจัดอันดับโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดในโลก เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย

1. อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย โดยมีสารสำคัญ เช่น วิตามิน A, เบตาแคโรทีน, วิตามิน C, กลูตาไธโอน, เมลาโทนิน และเบตาเลน ซึ่งช่วยลดการอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตา และลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
2. ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง
ผักเบี้ยใหญ่มีสารฟลาโวนอยด์ อัลคาลอยด์ และโพลีแซ็กคาไรด์ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งในระยะเริ่มต้น
3. บำรุงหัวใจ
เป็นพืชที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 สูงที่สุดในบรรดาพืชบนบก ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคสมองขาดเลือด อีกทั้งยังอาจช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม

4. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
มีรายงานวิจัยบางส่วนพบว่า การรับประทานผักเบี้ยใหญ่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 และอาจช่วยควบคุมน้ำหนักได้
5. เสริมสร้างกระดูกและฟัน
อุดมด้วยแคลเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุ
ข้อควรระวังในการรับประทาน
ผักเบี้ยใหญ่มีกรดออกซาลิก (Oxalate) ซึ่งอาจทำให้เกิดนิ่วในไต โดยเฉพาะในผู้ที่มีแนวโน้มเป็นนิ่วหรือมีโรคไตอยู่แล้ว หากต้องการรับประทาน ควรต้ม หรือลวกก่อน เพื่อช่วยลดกรดออกซาลิกในผัก หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน







