เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee - GBC) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้คำเชิญของกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย โดยมี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เข้าร่วมประชุมในฐานะหัวหน้าคณะฝ่ายกัมพูชา

พล.อ.ณัฐพลเปิดเผยว่า การหารือในครั้งนี้มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม โดยฝ่ายไทยยังคงยึดมั่นในเงื่อนไข 4 ประเด็นหลัก

-การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง

-การเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

-การปราบปรามขบวนการไซเบอร์สแกม

-การจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดนในจังหวัดสระแก้ว

ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ในหลายประเด็นสำคัญ และได้กำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการได้ทันที

1. การถอนอาวุธหนักจากพื้นที่ขัดแย้ง

ทั้งสองประเทศเห็นชอบร่วมกันในการจัดทำ ข้อกำหนดเงื่อนไขของงาน (Terms of Reference - TOR) สำหรับคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (IOT) และได้ลงนามรับรองโดยผู้แทนทั้งสองฝ่ายเรียบร้อยแล้ว โดยคณะ IOT จะทำหน้าที่ติดตามความคืบหน้าของการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง พร้อมกำหนดกรอบเวลาและเป้าหมายที่ชัดเจน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้จัดทำ แผนปฏิบัติการ (Action Plan) ร่วมกัน โดยมอบหมายให้แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย และผู้บัญชาการภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ขับเคลื่อนการดำเนินงาน โดยจะมีการหารือเพิ่มเติมในวันที่ 25 ตุลาคมนี้

2. การเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

ที่ประชุมสามารถจัดทำ ระเบียบปฏิบัติมาตรฐาน (Standard Operating Procedure - SOP) สำหรับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดนได้สำเร็จ ครอบคลุมทั้งพื้นที่ที่มีการกำหนดเขตแดนชัดเจน และพื้นที่ที่ยังมีข้อพิพาท หลังจากนี้ ชุดประสานงานของทั้งสองฝ่ายจะเริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ได้ทันที

3. การปราบปรามขบวนการไซเบอร์สแกม

ถือเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายกัมพูชาให้ความร่วมมืออย่างจริงจังกับฝ่ายไทย โดยหน่วยงานตำรวจของทั้งสองประเทศได้ร่วมกันจัดทำ แผนปฏิบัติการ (Action Plan) เพื่อกวาดล้างเครือข่ายไซเบอร์สแกมในพื้นที่ชายแดน และเตรียมจัดตั้ง กองกำลังเฉพาะกิจร่วม ภายในสองสัปดาห์ เพื่อดำเนินการจับกุมแกนนำและผู้เกี่ยวข้องในขบวนการดังกล่าว

4. การจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดนในจังหวัดสระแก้ว

ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมสำรวจแนวเส้นอ้างสิทธิในพื้นที่ชายแดน ระหว่าง หลักเขตที่ 42-47 บริเวณบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว โดยจะเป็นการเดินสำรวจและวางหมุดชั่วคราวเพื่อระบุตำแหน่งแนวเขตที่ชัดเจน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่กัมพูชายอมรับการร่วมสำรวจในลักษณะนี้

พล.อ.ณัฐพลยืนยันว่า การวางหมุดดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อการสำรวจเท่านั้น และ จะไม่กระทบต่อสิทธิของไทยในเขตแดนทางบกตามกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมย้ำว่าการประชุม GBC ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความร่วมมือ ความไว้วางใจ และการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างสันติและยั่งยืน.