วรภัค ประกาศลาออก รมช.คลัง ยันไม่เกี่ยวข้องสแกมเมอร์
เมื่อเวลา 14.05 น. วันที่ 22 ตุลาคม 2568 นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่มีการพาดพิงชื่อของตนว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ การฟอกเงิน และธุรกิจผิดกฎหมาย หลังมีการเผยแพร่ข่าวกล่าวหาอย่างกว้างขวาง
ในแถลงการณ์ นายวรภัคกล่าวว่า ตน ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับขบวนการหลอกลวงหรือธุรกิจผิดกฎหมายใด ๆ ทั้งในกัมพูชา หรือที่ใดในโลกนี้ ทั้งนี้ยืนยันว่าเมื่อมีการกล่าวหาว่า ตน ถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการดังกล่าว ตนไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้ เพราะตนไม่เคยอยู่ในวงนั้น และได้มอบหมายให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง
เขายังระบุว่า ถึงแม้จะรู้จักกับนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ (เบน สมิธ) เนื่องจากเคยเป็นผู้ปกครองโรงเรียนเดียวกัน แต่ ไม่เคยทราบว่าเขามีธุรกิจอะไรหรือมีความสัมพันธ์กับนายยิม เลียก (Yim Leak) นักธุรกิจชาวกัมพูชา/ประธานกลุ่ม B.I.C. แต่อย่างใด
นอกจากนี้ นายวรภัคยืนยันว่า ภรรยาของตน ไม่เคยมีบัญชีคริปโต เคยได้รับผลประโยชน์ใด ๆ จากกระบวนการนี้ โดยระบุว่า การนำชื่อผมและครอบครัวไปใส่ร้าย บิดเบือนข้อเท็จจริง และกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับเงินคริปโต นั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ในส่วนของจรรยาบรรณและประวัติการทำงาน เขายืนยันว่า ตลอด 30 ปีในแวดวงการเงิน การเป็นผู้บริหารและปัจจุบันในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตรวจสอบได้ และพร้อมให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบอย่างเปิดเผย
ท้ายที่สุด เพื่อไม่ให้ข้อกล่าวหาส่วนตัวกลายเป็นภาระหรือเงื่อนไขที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาล นายวรภัคกล่าวว่า ผมตัดสินใจจะลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง หากเรื่องนี้กลายเป็นอุปสรรคต่อประสิทธิภาพของรัฐบาล และยืนยันว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จและบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อปกป้องชื่อเสียง ตำแหน่ง และหลักนิติธรรมของตนเอง
สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ นายวรภัคเปิดเผยว่า จะให้ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอความร่วมมือจากสื่อให้ติดตามข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน พร้อมวางตัวสำหรับการทำงานในฐานะพลเมืองที่รักประเทศ และยึดถือความโปร่งใสเป็นหลัก
ทั้งนี้ ภาพรวมแถลงการณ์สะท้อนถึงการยืนยันตัวตนของนายวรภัคอย่างชัดเจน พร้อมตั้งเงื่อนไขหากการกล่าวหายืดเยื้อจนส่งผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาล






