นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีกำหนดเรียกประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคในเวลา 08.30 น. วันที่ 22 ตุลาคมนี้ เพื่อแจ้งเจตนารมณ์ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค จากนั้นในเวลา 09.30 น. จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการต่อไป รวมถึงการกำหนดวันประชุมวิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่และคณะกรรมการบริหารชุดใหม่

สาเหตุที่ น.ส.แพทองธารตัดสินใจลาออกครั้งนี้ สืบเนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งระบุให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขาดคุณสมบัติ โดยเห็นว่าเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงจากกรณีคลิปเสียงสนทนา แม้ข้อบังคับของพรรคจะไม่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคหลังคำวินิจฉัย แต่ด้วยบทบาทของหัวหน้าพรรคในการเซ็นรับรองผู้สมัคร ส.ส. ทำให้มีความเสี่ยงที่อาจมีผู้ยื่นร้องเรียนในอนาคต ส่งผลให้ผู้สมัครของพรรคไม่สามารถลงสมัครได้ จึงเป็นการตัดสินใจเชิงป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพรรค

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้หารือกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด และคาดว่าในสัปดาห์หน้า ทั้งสองจะเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทยอย่างเป็นทางการ โดยแสดงความเชื่อมั่นว่าพรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมอย่างมากในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

เมื่อถูกถามว่าพรรคภูมิใจไทยมีโอกาสคว้าที่นั่ง ส.ส. ได้ถึง 120 ที่นั่งหรือไม่ นายธนกรตอบว่า เป็นไปได้ พร้อมยกตัวอย่างเมื่อครั้งสังกัดพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งครั้งแรก ซึ่งแม้หลายฝ่ายมองว่ามีโอกาสน้อย แต่สุดท้ายกลับได้ที่นั่งจำนวนมาก พร้อมระบุว่าบรรยากาศในปัจจุบันมีความคล้ายคลึงกับช่วงเวลานั้น

นายธนกรยังกล่าวถึงบทบาทของนายกรัฐมนตรีในปัจจุบันว่า มีความชัดเจนและเข้มแข็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการสานต่อนโยบายดีๆ จากรัฐบาลก่อนๆ ถือเป็นความมีสปิริตที่ประชาชนชื่นชม

เมื่อถูกถามว่าบรรยากาศของพรรคภูมิใจไทยในขณะนี้คล้ายกับพรรคพลังประชารัฐในอดีต และเป็นจุดรวมของกลุ่มการเมืองฝั่งอนุรักษ์นิยมหรือไม่ นายธนกรระบุว่า ทำนองนั้น และมองว่าขณะนี้พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่น่าสนใจที่สุด

นอกจากนี้ยังแสดงความเห็นถึงทีมเศรษฐกิจว่า หากในอนาคตบุคคลอย่างนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้ามามีบทบาทในทีมเศรษฐกิจของพรรค พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจคนอื่นๆ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับคะแนนบัญชีรายชื่อมากขึ้น

สุดท้ายนายธนกรยังเปิดเผยว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในพรรคอาจไม่ได้มีเพียงคนเดียว และหากสามารถผสมผสานกลไกต่างๆ ทั้งในเชิงนโยบายและทีมบุคลากรได้อย่างลงตัว ก็จะเป็นจุดแข็งสำคัญของพรรคในการแข่งขันทางการเมืองครั้งถัดไป