
ฮุน มาเนต เปิดยุทธศาสตร์ เงียบแต่ไม่เงียบ พากัมพูชาพ้นสงคราม
วันที่ 21 ตุลาคม 2568 เว็บไซต์ Freshnews รายงานว่า ก่อนการลงนามข้อตกลงสันติภาพที่จะมีขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต ได้ย้ำว่า สันติภาพนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากโชคหรือความบังเอิญ แต่เกิดจากยุทธศาสตร์ที่ชาญฉลาด วางแผนมาเป็นอย่างดี ดำเนินการด้วยความอดทนและเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ
ในช่วงหนึ่งของการกล่าวสัมภาษณ์ เขาใช้วลีว่า
เราเงียบ แต่ไม่เงียบ
ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นผู้นำที่ใช้อำนาจอย่างมีวิสัยทัศน์ นำพาประเทศให้หลุดพ้นจากวิกฤตความขัดแย้ง ถึงแม้จะเผชิญกับความตึงเครียดและการยั่วยุอย่างต่อเนื่อง
ตามรายงาน ในช่วง 3 เดือนหลังจากการหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม มีการชี้ให้เห็นว่า ฮุน มาเนต แสดงให้เห็นว่า ความคิดที่เข้มแข็ง มีเหตุผล ปัญญา และความมั่นคงภายใน สามารถบรรเทาความขัดแย้งและป้องกันไม่ให้สงครามหวนกลับมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ นายกฯ กัมพูชาได้อธิบายเพิ่มเติมว่า แนวทาง เงียบแต่ไม่เงียบ ไม่ได้หมายถึงการนิ่งเฉยโดยไม่ทำอะไร หากแต่เป็นสัญลักษณ์ของวินัย ความสงบเยือกเย็น และการยึดมั่นในสันติภาพเป็นหัวใจของทุกการตัดสินใจและการแก้ไขปัญหา
นักแก้ปัญหาทำงานตลอด 24 ชั่วโมง พวกเขาไม่เพียงมองไปด้านเดียว แต่มองไปทุกที่่ เราจะช่วยเหลือผู้ลี้ภัย นักศึกษา อาชีพที่สูญเสีย เราพิจารณาสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด นั่นคือความหมายของการเงียบ แต่ไม่เงียบ
ยุทธศาสตร์นี้ ถูกนำมาใช้เพื่อยุติความตึงเครียดระหว่างกัมพูชากับไทยด้วยการฟื้นฟูความสัมพันธ์ผ่านการเจรจาและความร่วมมือระหว่างประเทศ มากกว่าจะใช้กำลัง
ในวันเดียวกัน ฮุน มาเนต ยังย้ำว่า ประเทศกัมพูชาไม่ยอมส่งมอบดินแดนใดให้กับไทย เพื่อแลกกับสันติภาพ โดยระบุว่า:
แม้ข้อตกลงทั้งหลายจะไม่มีการกล่าวถึงดินแดนโดยตรง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะยอมสูญเสียสิทธิ์ตามกฎหมายในการควบคุมดินแดนภายใต้เอกราชของเรา The Star
ข้อตกลงที่คาดว่าจะมีการลงนามในวันที่ 26 ตุลาคม 2025 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มีข้อสรุปสำคัญ
-การเคารพการหยุดยิงและอธิปไตยของแต่ละประเทศ
-การฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูต
-ความร่วมมือปราบอาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงออนไลน์
-การดำเนินการร่วมในการกวาดล้างทุ่นระเบิดและการเคลื่อนย้ายอาวุธหนักออกจากชายแดน
-การปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นายที่ถูกควบคุมตัวโดยไทย
-ความมุ่งมั่นที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติในฐานะเพื่อนบ้านและแก้ไขข้อพิพาทด้วยวิธีที่ปราศจากความรุนแรงและถูกต้องตามกฎหมาย
บทสรุปของบทความนี้เน้นว่า ยุทธศาสตร์ “เงียบแต่ไม่เงียบ”ของฮุน มาเนต แสดงให้เห็นว่า ความอดทนอย่างมีเหตุผล และการเจรจาทางการเมืองมีศักยภาพที่จะเอาชนะอาวุธและความรุนแรงได้ และว่ายุทธศาสตร์นี้จะถูกจดจำในฐานะ “แบบอย่างทางสติปัญญา” ที่ปกป้องสันติภาพ อธิปไตย และความร่วมมือระหว่างประเทศ