วันที่ 19 ตุลาคม 2568 ได้มีการลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณตำบลเกาะเทโพ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี พบระดับน้ำอยู่ห่างจากแนวถนนหน้าแม่น้ำเพียง 20 เซนติเมตร โดยชาวบ้านต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด เพราะหากน้ำเอ่อล้นข้ามถนนเมื่อใด จะกระทบบ้านเรือนในวงกว้าง

โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 6 บ้านเกาะสวรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเกาะ ขณะนี้ถูกน้ำท่วมเป็นรอบที่ 3 แล้ว ชาวบ้านกว่า 150 หลังคาเรือนได้รับผลกระทบ ต้องใช้เรือพายสัญจร และยังคงเข้าร่วมงานบุญกฐินที่วัดด้วยเรือทุกคน

นอกจากบ้านเรือน น้ำยังท่วมวัดเกาะสวรรค์ ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้าน โดยระดับน้ำภายในวัดสูงถึง 70 เซนติเมตร พระสงฆ์เพียงรูปเดียวในวัด ต้องพายเรือออกมาในช่วงเช้าเพื่อเดินบิณฑบาตริมถนน

ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า พื้นที่เกษตรกว่า 2,000 ไร่จมอยู่ใต้น้ำ รวมถึงพืชเศรษฐกิจ เช่น กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม และถั่วฝักยาว กำลังเริ่มเน่าเสีย บางพื้นที่เริ่มไม่สามารถกู้ผลผลิตได้แล้ว

นายสมศักดิ์ สุคง อายุ 60 ปี หนึ่งในผู้ประสบภัย เปิดเผยว่า น้ำท่วมครั้งนี้มาเร็วผิดคาด ไม่ทันตั้งตัวขนของขึ้นที่สูงทัน ทำให้ของใช้ที่ชั้นล่างได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกันที่บ้านยังมีผู้พิการเดินไม่ได้ หากระดับน้ำสูงขึ้นอีกก็ต้องอพยพขึ้นไปอยู่ชั้นสอง

ด้านนางสำราญ วัณพรรณ อายุ 61 ปี ชาวบ้านใกล้วัด ระบุว่าขณะนี้ต้องพายเรือออกจากบ้านทุกวันเพราะระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร พร้อมวิงวอนให้เขื่อนเจ้าพระยาช่วยเร่งระบายน้ำออกโดยเร็ว เพราะถั่วฝักยาวกำลังจะจมน้ำ และเกรงว่าหากน้ำสูงขึ้นอีกอาจต้องอพยพไปอาศัยอยู่ริมถนน

องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะเทโพ ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พร้อมเตรียมนำถุงยังชีพแจกจ่ายแก่ประชาชน และวางแนวทางช่วยเหลือบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในรอบนี้อย่างเร่งด่วน