วันที่ 18 ตุลาคม 2568 พ.ต.ต.จิรายุ อิ่นแก้ว สารวัตรกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พร้อม ร.ต.ต.ภิรัช เหรียญทอง รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สนธิกำลังร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33, เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และฝ่ายปกครองอำเภอฮอด เข้าตรวจสอบพื้นที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลาย บริเวณบ้านกองลอย ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่

สืบเนื่องจากชาวบ้านได้แจ้งเบาะแสมายัง พล.ต.ต.เอนก เตาสุภาพ ผู้บังคับการ บก.ปทส. ว่ามีการลักลอบใช้พื้นที่ป่าสงวนเพื่อปลูกสวนส้ม โดยได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส. ตรวจสอบข้อเท็จจริง

เมื่อเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่ามีการแผ้วถางป่าจนหมดภูเขา รวมพื้นที่ประมาณ 21 ไร่ มีการปลูกส้มเขียวหวานอย่างเป็นระบบ พร้อมติดตั้งระบบน้ำแบบสปริงเกอร์ และขุดบ่อบาดาลขนาดใหญ่

ภายในกระท่อมกลางสวน พบชายชาวเมียนมา อายุ 52 ปี พักอาศัยอยู่ โดยไม่มีหนังสือเดินทางหรือใบอนุญาตทำงาน จากการตรวจค้น พบยาบ้า 6 เม็ด พร้อมอุปกรณ์เสพยา และผลตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดในร่างกาย เจ้าตัวให้การว่าได้รับจ้างดูแลสวนจากนายจ้างเดือนละ 5,000 บาท

ระหว่างเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ พบชาย 4 คน ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาในสวน ท่าทางมีพิรุธ จึงเรียกตรวจค้นและพบอาวุธปืน 4 กระบอก ได้แก่

-ชายอายุ 31 ปี มีปืนยาวขนาด .22 พร้อมกระสุน 5 นัด

-ชายอายุ 39 ปี มีปืนลูกซองยาวพร้อมกระสุน 22 นัด

-ชายอายุ 21 ปี มีปืนแก๊ปยาวซุกในกระสอบ

-ชายอายุ 38 ปี มีปืนลูกซองยาวพร้อมกระสุน 17 นัด

ทั้งหมดรับสารภาพว่าอาวุธปืนเป็นของตนเอง และไม่มีใบอนุญาตในการครอบครอง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาหลายข้อ ได้แก่

-บุกรุกและทำลายพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

-ประกอบกิจการน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต

-ครอบครองและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1

-เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

-ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อหลวง ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.เอนก เตาสุภาพ ผบก.ปทส. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเชิงลึกพบว่าการบุกรุกพื้นที่ป่าแปลงนี้มีลักษณะเป็นเครือข่าย นายทุนบุกรุกป่า ที่มีการลงทุนสูง มีระบบชลประทานครบครัน และมีการใช้แรงงานต่างด้าว ซึ่งเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอาวุธปืน โดยผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่าหญิงรายหนึ่งพร้อมบุตรชายเป็นเจ้าของสวน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบขยายผลถึงเส้นทางการเงินและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป