วันที่ 17 ตุลาคม 2568 นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการ คนละครึ่ง พลัส เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ตามนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังซื้อ และช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน

โครงการดังกล่าวเป็นการสนับสนุนเงินร่วมจ่ายสำหรับค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้า และบริการที่เข้าร่วมรายการ โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ 15 ตุลาคม ถึง 19 ธันวาคม 2568

เปิดลงทะเบียนร้านค้า-ประชาชน

-ร้านค้าใหม่ ที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการ คนละครึ่ง เฟส 5 สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่งพลัส.com

-ประชาชนทั่วไป สามารถลงทะเบียนหรือยืนยันสิทธิได้ระหว่างวันที่ 20 - 26 ตุลาคม 2568 ผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง

กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีฐานผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs และ MSMEs) ภายใต้การส่งเสริมกว่า 100,000 ราย ทั่วประเทศ ซึ่งครอบคลุมธุรกิจค้าปลีก (โชห่วย) ธุรกิจแฟรนไชส์ ธุรกิจบริการ และร้านอาหาร Thai SELECT โดยอธิบดีพูนพงษ์ระบุว่า โครงการนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการในการเพิ่มรายได้ ขยายฐานลูกค้า และเข้าถึงมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ

จากข้อมูล ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ผู้ประกอบการภายใต้การดูแลของกรมฯ แบ่งเป็น

-ธุรกิจค้าปลีก (โชห่วย): 23,932 ราย

-ธุรกิจแฟรนไชส์ (แฟรนไชส์ซี): 60,497 สาขา

-ธุรกิจบริการ: 26,143 ราย

-ร้านอาหาร Thai SELECT: 463 ร้าน

หลายรายเคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟสก่อนหน้านี้แล้ว และในครั้งนี้ กรมฯ ตั้งเป้าว่า เกือบทุกราย จะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส

นายพูนพงษ์คาดการณ์ว่า โครงการคนละครึ่ง พลัส จะสามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ไม่ต่ำกว่า 88,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีทั้งในแง่ของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการสนับสนุนกำลังซื้อของประชาชน

หลังสิ้นสุดโครงการ กรมฯ จะรวบรวมข้อมูลและประเมินผล ทั้งจุดเด่นและข้อขัดข้องต่างๆ เพื่อนำไปพัฒนาแนวทางส่งเสริมที่เหมาะสมและต่อเนื่อง พร้อมเตรียมจัดอบรมเสริมทักษะด้านการบริหารจัดการ และความรู้ทางธุรกิจต่างๆ ให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อรองรับการเข้าร่วมโครงการของรัฐบาลในอนาคต

นายพูนพงษ์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลักดันโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ นโยบาย Quick Big Win ที่มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจขนาดเล็ก ตามแนวทางของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ โดยมีเป้าหมายให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศสามารถขับเคลื่อนได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน