จากกรณีที่สื่อกัมพูชาเผยแพร่ข่าวอ้างว่านางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภาไทย ยอมรับว่าไทยใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 ทิ้งระเบิด MK-84 โจมตีกัมพูชาก่อน ล่าสุดมีการตรวจสอบพบว่าเป็นการบิดเบือนคำพูด โดยนำคำให้สัมภาษณ์ของนางอังคณาที่กล่าวว่า การใช้ F-16 ของไทยโจมตีกัมพูชาก็ทำให้กัมพูชาได้รับความสูญเสียไม่น้อย ไปขยายความในลักษณะที่ผิดไปจากบริบทเดิม จนนำไปสู่ความเข้าใจผิดในวงกว้าง

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ปฏิบัติการทางอากาศของกองทัพไทยโดยใช้เครื่องบิน F-16 เป็นการดำเนินการตอบโต้ภายใต้สถานการณ์ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาได้เริ่มใช้กำลังโจมตีอย่างไร้มนุษยธรรม ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์

ทั้งนี้ การใช้อากาศยานดังกล่าวมีเป้าหมายชัดเจน คือ เพื่อทำลายขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้ามในการโจมตี โดยเจาะจงโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหาร ภายใต้กรอบของความพอดีและประสิทธิภาพในการควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายวงกว้าง ซึ่งสอดคล้องกับหลักการปฏิบัติสากลในการป้องกันประเทศ

พล.ต.วินธัย ระบุว่า การที่ฝ่ายกัมพูชานำข้อมูลบางส่วนจากคำให้สัมภาษณ์ของคนไทยไปขยายผลในทางที่บิดเบือน ถือเป็นแนวทางที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และไม่ใช่เรื่องใหม่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ การที่คนไทยบางรายอาจสื่อสารข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน หรือขาดความเข้าใจข้อเท็จจริงของสถานการณ์ จนกลายเป็นช่องทางให้ฝ่ายตรงข้ามนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงปฏิบัติการข่าวสาร

โฆษกกองทัพบกย้ำว่า ในยุคปัจจุบัน สงครามไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในสนามรบเท่านั้น แต่การสื่อสารก็เป็นอีกหนึ่งสมรภูมิสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องระมัดระวัง และใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร

ในตอนท้าย พล.ต.วินธัย เน้นย้ำถึง ความสามัคคีของคนไทยทุกภาคส่วน ว่าเป็นกุญแจสำคัญในการพาประเทศผ่านพ้นสถานการณ์ท้าทายต่าง ๆ พร้อมยกบทเรียนในอดีตว่า เมื่อใดที่คนไทยขาดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ก็ยิ่งเปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีเข้ามาแทรกแซงและหาผลประโยชน์จากความแตกแยกในสังคม.