
ทัพบก โต้สื่อเขมร บิดเบือนคำพูด ส.ว.อังคณา ผิดจากข้อเท็จจริง
วันที่ 16 ตุลาคม 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีสื่อกัมพูชานำเสนอข่าวอ้างว่า นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภาไทย ออกมายอมรับว่าไทยใช้เครื่องบิน F-16 ทิ้งระเบิด MK-84 โจมตีกัมพูชาก่อน ว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูล โดยข้อเท็จจริง นางอังคณาเพียงกล่าวว่า การใช้ F-16 ของไทยโจมตีกัมพูชาก็ทำให้กัมพูชาได้รับความสูญเสียไม่น้อย ซึ่งเป็นการแสดงความเห็นทั่วไป ไม่ได้ยอมรับว่าฝ่ายไทยเริ่มโจมตีก่อนตามที่สื่อกัมพูชานำเสนอ
โฆษกกองทัพบกระบุว่า ปฏิบัติการของกองทัพไทยในกรณีดังกล่าว เป็นการตอบโต้หลังจากฝ่ายกัมพูชาดำเนินการโจมตีใส่กำลังพลและพลเรือนของไทยอย่างไร้มนุษยธรรม ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง โดยการใช้อากาศยาน F-16 มีเป้าหมายจำกัดอยู่เฉพาะทางทหารที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง เพื่อปกป้องชีวิตประชาชนและลดผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ กองทัพไทยย้ำว่า การเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนจากฝ่ายกัมพูชา เพื่อตอบสนองผลประโยชน์ทางการเมืองและหวังบ่อนทำลายภาพลักษณ์ของไทยในเวทีระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่ใช่เรื่องใหม่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลคือ การที่บุคคลภายในประเทศออกมาแสดงความเห็นโดยขาดข้อมูลครบถ้วน ซึ่งอาจกลายเป็นเครื่องมือให้ฝ่ายตรงข้ามนำไปขยายผลสร้างความสับสนได้
การต่อสู้ในยุคปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในสนามรบ แต่ยังมีมิติของสงครามข้อมูลและการสื่อสาร ซึ่งส่งผลต่อทัศนคติของประชาชนอย่างมาก เราเชื่อว่าประชาชนจะใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างรอบคอบ พล.ต.วินธัย กล่าว
พร้อมกันนี้ โฆษกกองทัพบกยังเน้นย้ำว่า ความสามัคคีของคนไทยทุกภาคส่วนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการรักษาเอกราช ความมั่นคง และการรับมือกับความท้าทายที่ประเทศเผชิญในสถานการณ์ปัจจุบัน
กองทัพอากาศแจงเหตุการณ์ 24 ก.ค. เป็นการตอบโต้ภายหลังถูกโจมตีก่อน
ในวันเดียวกัน พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ ให้สัมภาษณ์ที่ท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ยืนยันว่า การปฏิบัติการทางอากาศของไทยในเหตุการณ์ปะทะชายแดน เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เป็นการตอบโต้ภายหลังฝ่ายกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้ามายังพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เวลาประมาณ 09.30 น. ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีก 2 ราย
โดยก่อนหน้านั้น มีการปะทะกันของกำลังทหารในเวลา 08.00 น. และทางกองทัพอากาศได้รับคำสั่งให้ตอบโต้ในเวลา 10.38 น. ด้วยเครื่องบิน F-16 พร้อมอาวุธแม่นยำสูง เพื่อจำกัดวงความเสียหายให้อยู่เฉพาะเป้าหมายทางทหาร ไม่ให้กระทบต่อพลเรือน
พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ระบุว่า แม้ไทยจะดำเนินการตอบโต้แล้ว ฝ่ายกัมพูชายังคงยิงจรวด BM-21 และปืนใหญ่อย่างต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นต้องใช้ปฏิบัติการทางอากาศเพิ่มเติม จนสิ้นสุดลงในคืนวันที่ 28 กรกฎาคม หลังมีการตกลงหยุดยิงร่วมกันของทั้งสองฝ่าย
การให้ข้อมูลครั้งนี้ไม่ใช่การตอบโต้นางอังคณา แต่เป็นการชี้แจงต่อข่าวปลอมที่เผยแพร่โดยสื่อกัมพูชา ซึ่งหยิบยกคำพูดของท่านไปขยายผลผิดจากเจตนาเดิม กองทัพอากาศขอยืนยันว่า ทุกปฏิบัติการของไทยเป็นไปตามหลักของการป้องกันตนเอง ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ ตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ
โฆษกกองทัพอากาศยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ปฏิบัติการของกองทัพอากาศเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ร่วมในการปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติ และยืนยันว่ากำลังทางอากาศของไทยยังคงมีความพร้อมตลอดเวลาในการรับมือกับทุกสถานการณ์
ธรรมชาติของกำลังทางอากาศคือการเคลื่อนตัวได้รวดเร็ว ตอบโต้ได้ทันต่อเหตุการณ์ และตลอดช่วงที่ปฏิบัติการ เราเลือกโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารอย่างชัดเจน ไม่เคยใช้กำลังเกินกว่าเหตุ พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ กล่าวย้ำ