1. ใช้อาหารเหลือจากมื้อเย็นมาเป็นมื้อเช้า

แม้การเก็บอาหารเหลือไว้ในตู้เย็นเพื่อใช้ในวันถัดไปจะดูประหยัด แต่มื้อเช้าที่มาจากอาหารค้างคืนมีโอกาสมีไนไตรต์สะสม ปะปนกับเชื้อจุลินทรีย์ และเมื่อเข้าสู่ร่างกายอาจเปลี่ยนเป็นไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งได้

2. มื้อเช้าแนวทอดหรือมันมากเกิน

ของทอดอย่างเฟรนช์ฟราย ไก่ทอด หรือแฮชบราวน์ ที่ทอดในน้ำมันร้อนจัด มีสารเบนโซไพลีนและอะคริลาไมด์ ซึ่งถูกจัดอยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็ง เมื่อรับประทานบ่อยๆ จะส่งผลเสียต่อเซลล์และระบบภายใน

3. ดื่มนม/น้ำผลไม้/กาแฟ แทนมื้อเช้า

บางคนคิดว่าแค่น้ำผลไม้ กาแฟ หรือนมก็พอแล้วในตอนเช้า แต่การดื่มตอนท้องว่างทำให้กรดในกระเพาะทำงานหนัก รวมถึงน้ำผลไม้มีน้ำตาลสูง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้น-ลงเร็ว ส่วนกาแฟอาจกระตุ้นให้กรดในกระเพาะเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้เซลล์ผิดปกติเจริญเติบโตได้ง่ายขึ้น

4. มื้อเช้ากับอาหารแปรรูปที่มีเนื้อสัตว์แปรรูป

เช่น ไส้กรอก เบคอน แฮม เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มอาหารที่องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดว่าเป็น สารก่อมะเร็งระดับ 1 มีไนไตรต์และสารผสมอื่นๆ ที่อาจกลายเป็นสารก่อมะเร็งในร่างกายได้เมื่อเวลาผ่านไป

5. มื้อเช้าแนวหวานจัด ของว่าง-ของหวาน

ขนมหวาน ขนมกรุบกรอบ ช็อกโกแลต ฯลฯ มีน้ำตาลสูง เมื่อรับประทานตอนเช้าอาจทำให้มีอินซูลินสูงซึ่งสัมพันธ์กับการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้ น้ำตาลส่วนเกินยังสร้างภาวะอักเสบเรื้อรังภายในร่างกาย

สำหรับม้อเช้าที่ดี ได้แก่ อาหารที่มีโปรตีน ไฟเบอร์ และไขมันดี เช่น ข้าวโอ๊ต ไข่ ปลา ถั่ว ผักสด ฯลฯ หลีกเลี่ยงอาหารที่ทอด น้ำตาลสูง หรือแปรรูปมากเกินไป