เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 14 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมของรัฐสภา โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (แก้ไขเพิ่มเติม) จำนวน 3 ฉบับ จากพรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีจุดประสงค์หลักเหมือนกันคือ แก้ไขมาตรา 156 และเพิ่มหมวด 15/1 ว่าด้วยกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

พรรคภูมิใจไทยเสนอร่างฯ ที่ เข้าใจง่าย - ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เป็นผู้นำเสนอร่างของพรรค โดยระบุว่า ร่างฯ ฉบับนี้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อย่างแท้จริง ภายใต้กรอบของข้อตกลง MOA ที่พรรคเข้าร่วม และยึดหลัก 4 ประการ

-เข้าใจง่าย

-ทำได้จริง

-ไม่สร้างความขัดแย้งรอบใหม่

-ไม่ขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

โครงสร้างของผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีทั้งหมด 99 คน แบ่งเป็น

-ส.ส.ร.จังหวัด 77 คน (จังหวัดละ 1 คน)

-ส.ส.ร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 22 คน จากภาคนิติศาสตร์, รัฐศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน

ผู้สมัครทั้ง 2 กลุ่มต้องยื่นความจำนงต่อ กกต. เมื่อผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว จะส่งรายชื่อให้ประธานรัฐสภา เพื่อให้รัฐสภาโหวตคัดเลือก โดยในส่วนของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จะมีทั้งหมด 45 คน มาจาก ส.ส.ร. 30 คน และบุคคลภายนอกอีก 15 คน

ทั้งนี้ ร่างของพรรคภูมิใจไทยมีข้อกำหนดชัดเจนว่าจะ ไม่แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งเกี่ยวข้องกับรูปแบบของรัฐ และสถานะของพระมหากษัตริย์

นายกรวีร์ยังกล่าวถึงร่างของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนว่า มีจุดเสี่ยง ต่อการขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะกรณีที่กำหนดให้ ส.ส.ร. มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ซึ่งเคยมีคำวินิจฉัยระบุว่าไม่สามารถทำได้

เขายังชี้ว่า ร่างของพรรคประชาชนมีลักษณะ ซับซ้อน เข้าใจยาก ไม่มีการจัดตั้ง ส.ส.ร. แต่ใช้กลไกคณะกรรมาธิการยกร่างฯ 35 คน ซึ่งมีที่มาที่ไม่ชัดเจน โดยจะมี สภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่ไม่มีอำนาจในการเขียนรัฐธรรมนูญโดยตรง ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการขัดหลักการของศาลรัฐธรรมนูญได้

นายกรวีร์ย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยพร้อมรับหลักการของร่างทุกพรรค แต่เสนอให้ใช้ร่างของพรรคภูมิใจไทยเป็น ร่างหลัก เพราะมีจุดแข็งหลายด้าน

-ไม่ขัดคำวินิจฉัยศาล

-ลดความขัดแย้ง

-โครงสร้างชัดเจน

-มีความเป็นไปได้ทางปฏิบัติ

อย่าฝันเกินจริง การแก้รัฐธรรมนูญต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ไม่ใช่เพ้อฝัน ร่างของพรรคภูมิใจไทยเข้าใจง่าย ทำได้จริง และไม่เสี่ยงให้ความพยายามล้มเหลวเหมือนที่ผ่านมา นายกรวีร์กล่าวทิ้งท้าย