เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 13 ตุลาคม 2568 รายงานเหตุการณ์จากจังหวัดปราจีนบุรี หลังมีคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดถูกเผยแพร่และแชร์ในโซเชียลมีเดียหลายเพจ แสดงภาพเหตุชุลมุนบนถนนช่วงเวลากลางดึก บริเวณถนนสาย 3079 (โคกขวาง-คลองรั้ง) หมู่ 7 ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ใกล้กับปั๊มน้ำมัน ปตท. ริมถนนสาย 304

จากคลิปพบว่า ชายขับขี่รถจักรยานยนต์สีน้ำเงินลำพัง มาหยุดอยู่กลางถนน คล้ายรถน้ำมันหมด ต่อมามีรถจักรยานยนต์สีแดงซ้อนสองขี่ตามมา และเกิดการโต้เถียงกันขึ้น โดยฝ่ายที่ขับรถจักรยานยนต์สีน้ำเงินมีลักษณะพกอาวุธปืน

จากนั้นไม่นาน มีกลุ่มวัยรุ่นอีก 3 คัน ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาสมทบรวมเป็น 5 คน และได้รุมทำร้ายชายที่ถือปืน พร้อมพยายามบังคับให้นอนหมอบกับพื้นถนน

ในขณะที่เหตุการณ์กำลังชุลมุน มีรถกระบะกู้ภัยสีขาวคันหนึ่งขับผ่านมา ก่อนจะวนกลับมาแล้วพุ่งเข้าชนกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว จนรถจักรยานยนต์ 4 คันที่จอดอยู่ล้มระเนระนาด กลุ่มผู้ก่อเหตุพากันวิ่งหลบหนี ส่วนรถกระบะหลบหนีไปทางตลาดคลองรั้งระหว่างความวุ่นวาย

หลังจากเหตุการณ์สงบ กลุ่มวัยรุ่นยังคงทำร้ายชายที่ถูกระบุว่าพกปืนต่ออีก

ต่อมา สถานีตำรวจภูธรศรีมหาโพธิ ได้โพสต์ภาพจากที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่าได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 01.30 น. ของวันที่ 12 ตุลาคม เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่ทันที

จากการตรวจสอบ พบรถจักรยานยนต์เสียหาย 4 คัน มีผู้บาดเจ็บหลายราย

-นายอาฤทธิ์

-นายกฤษดา

-นายอมรเทพ

-นายกล้าณรงค์

ผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลก่อนเจ้าหน้าที่ไปถึง โดยรถกระบะคู่กรณีหลบหนีหลังเกิดเหตุ

พ.ต.อ.มงคล เป๋า ผู้กำกับการ สภ.ศรีมหาโพธิ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการสอบสวนพบว่า กลุ่มวัยรุ่นทั้งสองฝ่ายเกี่ยวข้องกับหน่วยกู้ภัย 2 หน่วยงาน ที่เคยมีปัญหาความขัดแย้งกันมาก่อน โดยก่อนเกิดเหตุ มีอุบัติเหตุรถชนในพื้นที่ และทั้งสองกลุ่มเข้าไปให้การช่วยเหลือ แต่เกิดความขัดแย้งกันในกระบวนการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ

ต่อมาทั้งสองฝ่ายได้นัดพูดคุยกันที่ป้อมตำรวจฝั่งตรงข้ามห้างโลตัส และมีการตกลงกันที่ สภ.ระเบาะไผ่ โดยในตอนแรกดูเหมือนทุกฝ่ายเข้าใจกันดี

อย่างไรก็ตาม ช่วงกลางดึกทั้งสองกลุ่มกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งริมถนน 304 และเกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทตามคลิปที่ถูกเผยแพร่

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด พร้อมยึดรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นมีการแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น รอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์เพื่อพิจารณาว่าจะเข้าข่ายบาดเจ็บสาหัสหรือไม่

ในส่วนของรถจักรยานยนต์บางคัน เจ้าของได้นำไปใช้งานก่อนตรวจสอบอย่างละเอียด เนื่องจากต้องใช้ในการทำงาน

เจ้าหน้าที่ได้นัดคณะผู้บริหารหน่วยกู้ภัยทั้งสองฝ่ายมาพบกันที่ สภ.ศรีมหาโพธิ เวลา 10.00 น. วันที่ 13 ตุลาคม เพื่อพูดคุย ตกลงแนวทางการทำงานร่วมกัน และตั้งกติกาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีกในอนาคต

พ.ต.อ.มงคล ฝากถึงอาสาสมัครกู้ภัยทุกฝ่ายว่า ขอให้ยึดหลักของการเป็น จิตอาสา อย่างแท้จริง ช่วยเหลือประชาชนโดยไม่ยึดติดเรื่องพื้นที่หรือเขตรับผิดชอบ เพราะทุกคนมีหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนอย่างไม่มีเงื่อนไข

รายงานเพิ่มเติมว่า พื้นที่อำเภอศรีมหาโพธิเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ และเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรม 304 ซึ่งมีโรงงานมากกว่า 1,000 แห่ง ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนบ่อยครั้ง มีหน่วยกู้ภัยจิตอาสาในพื้นที่อย่างน้อย 3 หน่วยงานที่คอยให้ความช่วยเหลือประชาชนและภาครัฐมาโดยตลอด แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความจำเป็นในการจัดระเบียบการทำงานร่วมกันอย่างจริงจังเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนในอนาคต